เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
Special Report : หนี้ครัวเรือนชะลอตัว จ้างงานลด หวั่นคนไทยก่อหนี้เกินกำลัง


สถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทย ณ ตอนนี้ พบว่ามีการชะลอตัวลงติดต่อกัน 4 ไตรมาสแล้ว มองดูแล้วเหมือนจะเป็นข่าวดี เพราะสัดส่วนหนี้ต่อ GDP ที่ไม่พุ่งขึ้นนี้ นับเป็นการช่วยลดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ และยังแปลตรงตัวได้อีกว่า ประชาชนคนไทยโดยรวมไม่ได้ก่อหนี้เพิ่มเร็วเท่าเดิม เหมือนกับยุคโควิด-19 ที่สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ทะยานสูงสุดถึง 95% แต่หากขุดลึกลงไปมากขึ้นแล้ว บริบทที่ คนไทยไม่มีหนี้ อาจไม่ได้แปลว่าอยู่ได้สบาย เพราะสาเหตุของข่าวที่เหมือนจะดีนี้ดันมาจาก “ธนาคารปล่อยกู้ยากมากขึ้น”
 
ธนาคารพาณิชย์ เป็นธุรกิจสถาบันการเงินที่มีหน้าที่หลัก คือ การปล่อยสินเชื่อ เพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศหมุน เช่น ให้คนกู้ไปซื้อบ้าน ทำธุรกิจ ฯลฯ และรับฝากเงิน จากคนที่มีเงินเหลือ แล้วเอาเงินนั้นไปให้คนที่ต้องการใช้เงิน โดยธนาคารจะบริหารความเสี่ยง ไม่ให้เจ๊งจากการปล่อยกู้ผิดคน และยังสามารถสร้างกำไรเพื่อให้สถาบันยังอยู่รอดต่อไปได้ ธนาคารจึงปล่อยกู้กับคนที่ “มั่นใจว่าจะได้คืน” หรือประเมินแล้วมีความสามารถในการชำระหนี้ ดังนั้นในตอนนี้ที่ภาคธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จนทำให้หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ในไตรมาส 4/2567 มีมูลค่า 16.42 ล้านล้านบาท ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 88.4% จาก 88.9% ของไตรมาสก่อนหน้านั้น กำลังสะท้อนถึงสภาวะเศรษฐกิจไทยในทางลบ และคุณภาพสินเชื่อปรับตัวลดลง
 
ทางสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ รายงานว่า ในไตรมาส 4/2567 คุณภาพสินเชื่อปรับตัวลดลง (ลูกหนี้เริ่มผ่อนไม่ไหวมากขึ้น) โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ในฐานข้อมูลเครดิตบูโรมีจำนวน 1.22 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อสินเชื่อรวม อยู่ที่ 8.94% ขณะที่สินเชื่อค้างชำระ 30-90 วัน หรือ SMLs มีมูลค่า 568,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 6.9% ขณะเดียวกันทาง สภาพัฒน์ ก็ยังเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจและสังคมไทยไตรมาส 1/2568 ว่า การจ้างงานมีการปรับตัวลดลง 0.5% เหลือ 39,400,000 คน อันเป็นผลจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของการจ้างงานภาคเกษตรกรรม ส่วนการจ้างงานภาคการผลิตอุตสาหกรรมเริ่มหดตัวลงเล็กน้อย และธุรกิจ SME ก็มีแนวโน้มว่าว่างงานสูงขึ้น จากการปิดตัวของบริษัทที่มากขึ้น
 
โดยพิจารณาจากข้อมูลผู้ว่างงานในไตรมาสแรกของปีนี้ พบว่า มีผู้ว่างงานประมาณ 360,000 คน ขณะที่ผู้เสมือนว่างงานก็มีจำนวนมากกว่า 4.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นผู้เสมือนว่างงานจากภาคเกษตร 1,500,000 คน ภาคบริการ 2,000,000 คน และภาคการผลิต 820,000 คน
 
ดังนั้นในช่วงเวลานี้ที่คนมีรายได้ไม่เท่าเดิม มีความสามารถในการใช้จ่ายลดลง หรือก็คือมีแนวโน้มที่จะจ่ายหนี้ไม่ไหวมากขึ้น จากพฤติกรรมส่วนใหญ่ที่มีไลฟ์สไตล์ติดแกรม ติดหรู จนไปสู่การก่อหนี้เกินกำลังตัวเอง ทางสถาบันการเงินเอง จึงจำเป็นต้องพยายามคุมไม่ให้หนี้ประเภท SMLs ขยับขึ้นไปกลายเป็นหนี้เสีย NPL ซึ่งส่งผลเสียต่อทั้งตัวเองและเศรษฐกิจ ด้วยการวางเงื่อนไขเพิ่มเติมที่เข้มงวดในการปล่อยกู้มากขึ้น อันเป็นสาเหตุที่สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ในไตรมาส 4/2567 ลดลงมาอยู่ที่ 88.4% โดยมีเบื้องหลังมาจากสินเชื่อยานยนต์ และสินเชื่อในภาคธุรกิจ มีการปรับตัวลดลง แต่ที่น่าเป็นห่วง คือกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล หรือ Personal Loan ที่ยังคงขยายตัว สะท้อนถึงความเสี่ยงว่าผู้คนกำลังมีความเสี่ยงในการใช้จ่ายเกินตัวมากขึ้น
 
นอกจากนี้ สภาพัฒน์ ยังกล่าวถึงประเด็นที่ต้องเฝ้าระวัง คือ ความเสี่ยงในการตกงานของเด็กจบใหม่ เนื่องจากผู้บริหารส่วนใหญ่ยังมองว่าขาดประสบการณ์ โดยจากผลสำรวจ พบว่า ผู้บริหารกว่า 89% มีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ และหันไปจ้างฟรีแลนซ์ หรือพนักงานที่เกษียณไปแล้วแทน ทำให้ปัญหาของหนี้เสีย NPL อาจยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจเกิดสภาวะที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หากยังไม่มีมาตรการของทางภาครัฐมาช่วยการกระจายเม็ดเงินในระบบ ให้ทุกภาคส่วนมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม SME รวมถึงการพัฒนาด้านภาคการศึกษาให้มีคุณภาพมากขึ้น

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 มิ.ย. 2568 เวลา : 19:32:47
16-06-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 20 มิ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำมหาสวัสดิ์

2. ตลาดหุ้นปิด (13 มิ.ย.68) ลบ 5.92 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,122.70 จุด

3. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,400 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,450 เหรียญ

4. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (13 มิ.ย.68) ลบ 3.56 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,125.06 จุด

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 มิ.ย.68) บวก 101.85 จุด ดัชนี PPI ต่ำกว่าคาด หนุนเฟดลดดอกเบี้ย

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (12 มิ.ย.68) พุ่ง 58.70 เหรียญ เหตุตะวันออกกลางตึงเครียด หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (13 มิ.ย.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.33 บาทต่อดอลลาร์

8. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 มิ.ย.68) บวก 101.85 จุด ดัชนี PPI ต่ำกว่าคาด หนุนเฟดลดดอกเบี้ย

9. พยากรณ์อากาศวันนี้ (13 มิ.ย.68) ภาคเหนือ-ภาคอีสาน ฝนตกหนัก 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 60% ภาคใต้ 30-40%

10. ตลาดหุ้นไทยเปิด (13 มิ.ย.68) ลบ 6.87 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,121.75 จุด

11. ทองเปิดตลาดวันนี้ (13 มิ.ย. 68) พุ่งขึ้น 850 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 53,350 บาท

12. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์

13. ตลาดหุ้นปิด (12 มิ.ย.68) ลบ 12.96 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,128.62 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (12 มิ.ย.68) ลบ 6.65 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,134.93 จุด

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (11 มิ.ย.68) บวก 30 เซนต์ หลังเงินเฟ้อชะลอตัวคาดเฟดลดดอกเบี้ย

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ June 16, 2025, 1:42 am