เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ยังแกว่งในกรอบ รอปัจจัยใหม่"


คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ NFP สหรัฐฯ ในคืนนี้คาดว่ายังไม่สามารถรายงานได้ในช่วงปิดหน่วยงานราชการ ตลาดคงคาดว่าภาคแรงงานสหรัฐฯ ยังแย่ตามตัวเลข ADP ที่ออกไปก่อนหน้า แม้เป็นสัญญาณลดดอกเบี้ยเฟดหนุนเงินไหลเข้า แต่นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิวันก่อน ทำให้ยังระมัดระวัง ทางเทคนิคตลาดยังแกว่งตัวในกรอบ ยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1290-1293 ได้ การยืนเหนือได้จึงจะเป็นสัญญาณบวก ส่วนการลงมีกรอบล่างที่ 1268 รอเบรก

ประเด็นสำคัญ

• รมว. คลังเตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เข้าสู่ ครม. เพื่อพิจารณาในวันที่ 14 ต.ค. คาดให้วงเงินลดหย่อน 4 หมื่นบาท  ส่วนระยะยาวจะมีมาตรการสำหรับธุรกิจโรงแรมที่ต้องการปรับปรุง รีโนเวต จะสามารถใช้ในการหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า มองเป็นผลบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) 

• กทม. เตือนระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาจะหนุนสูงในช่วงวันที่ 9-12 ต.ค. 2568 เนื่องจากกรมชลประทานจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำนับตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. หลังปริมาณน้ำในเขื่อนภาคเหนือโดยรวมแตะระดับ 90% ใกล้เคียงกับระดับในปี 2554 แต่ยังไม่อยู่ในระดับวิกฤต

• รมต. คลังสหรัฐฯ เผยผ่าน CNBC ว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ (US Shut Down) อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโต ศก. สหรัฐฯ ด้าน Goldman Sachs ประเมินอาจกระทบการเติบโต GDP สหรัฐฯ ลดลง 0.2% ต่อสัปดาห์ ส่วน Fitch Ratings เผยว่าเหตุการณ์นี้จะไม่กระทบต่อ Credit Rating ของประเทศ

• วุฒิสภาสหรัฐฯ พักการประชุมวานนี้ (2 ต.ค.) เนื่องในวันสำคัญของศาสนายิวและจะเปิดประชุมอีกครั้งในวันนี้ คาดจะมีการลงมติเพื่อผ่านร่างกฎหมายงบฯ ชั่วคราวอีกครั้ง

• รัฐบาลไต้หวันเสนอจะสนับสนุนบริษัทเทคฯ ไต้หวัน ให้เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ โดยการขยายการค้ำประกันสินเชื่อบริษัทที่จะเข้าลงทุนในสหรัฐฯ หวังเดินหน้าการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ที่ถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 20%

• สหภาพยุโรปเตรียมเสนอการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเหล็กขึ้นเป็น 50% จากเดิมที่ 25% ซึ่งจะหมดอายุในปี 2569 ให้สอดคล้องกับมาตรการของสหรัฐฯ เพื่อควบคุมปัญหาเหล็กล้นตลาดจากจีน

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1260-1300 จุด โดยปัจจัยในประเทศติดตามการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะแผนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน ส่วนปัจจัยต่างประเทศติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ PMI จีนและสหรัฐฯ รวมทั้งตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าตัวเลขจะออกมาไม่ได้แย่กว่าที่ตลาดกังวล ทำให้ไม่กดดันตลาดหุ้นไทยมากนัก แต่หากอ่อนแอมากขึ้น คาดจะทำให้ตลาดมีคาดหวังมากขึ้นต่อการเร่งปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในระยะถัดไป ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ ตลาดรอติดตามการแถลงนโยบายรัฐบาล และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในต่างประเทศ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากฤดูกาลและจากปัจจัยเฉพาะตัว ADVANC BCPG GULF SCC

2. หุ้นปันผลคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตระยะสั้น คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ TTB (XD 6 ต.ค.)
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC TIDLOR

4. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงและต้องการเก็งกำไร 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากช่วงวันหยุดยาวชาติจีน 1-8 ต.ค. กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) 2) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคและการท่องเที่ยว กลุ่มค้าปลีก/ส่ง (CPALL CPAXT BJC TNP) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) และกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) และ 3) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากความต้องการซ่อมแซมถนนและที่อยู่อาศัย หลังน้ำท่วมกลุ่มวัสดุก่อสร้างและกลุ่มค้าปลีก (TASCO BJC HMPRO GLOBAL)

Daily Top Picks

CPALL: คาดได้อานิสงส์รัฐเร่งดำเนินนโยบายสร้างรายได้และลดค่าครองชีพซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ 2H68 คาดกําไรจะโตเด่นกว่ากลุ่ม หนุนจาก SSS ที่แข็งแกร่งและอัตรากำไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น ส่วนแบ่งกำไรที่เป็นบวกจาก CPAXT ด้าน Valuation น่าสนใจ เทรด PER 2568F ที่ 14 เท่าต่ำสุดในกลุ่ม ราคาเป้าหมายระยะสั้น 49.50 บาท

LHHOTEL: มีปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง (มีหนี้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว 58%) และมองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้ว เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง YoY แคบลง นำโดยตลาดที่ไม่ใช่จีน 3Q68 คาดกำไรเติบโต QoQ แม้ว่า YoY น่าจะยังคงติดลบ แต่จะติดลบแคบลง ราคาเป้าหมายระยะสั้น 12.60 บาท
 
 

LastUpdate 03/10/2568 12:49:19 โดย : Admin
03-10-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (3 ต.ค.68) บวก 4.16 จุด ดัชนี 1,292.45 จุด

2. MTS Gold คาดราคาทองคำ อยู่ในแนวโน้ม Sideway Up แต่ในระยะสั้นปรับตัวลงจากแรงเทขายทำกำไรหลังพุ่งขึ้นไปทำนิวไฮที่ 3,897 เหรียญ

3. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (2 ต.ค.68) ลบ 29.4 ดอลลาร์ หลังประธานเฟดสาขาดัลลัสแนะใช้ความระวังลดดอกเบี้ย

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (2 ต.ค.68) บวก 78.62 จุด รับปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่ง

5. พยากรณ์อากาศวันนี้ (3 ต.ค.68) กรุงเทพปริมณฑล-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. ฝนฟ้าคะนอง 60% ภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 40% ภาคอีสาน 30%

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (3 ต.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 32.47 บาทต่อดอลลาร์

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (3 ต.ค. 68) ลดลง 150 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 60,050 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (3 ต.ค.68) บวก 2.04 จุด ดัชนี 1,290.33 จุด

10. ประกาศ กปน.: 9 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำประชานุกูล

11. ตลาดหุ้นปิด (2 ต.ค.68) บวก 13.26 จุด ดัชนี 1,288.29 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (2 ต.ค.68) บวก 15.63 จุด ดัชนี 1,290.66 จุด

13. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) อย่างต่อเนื่อง กรอบแนวรับระยะสั้นวันนี้ที่ 3,840-3,820 เหรียญ แนวต้านที่ 3,890-3,910 เหรียญ

14. ตลาดหุ้นไทยเปิด (2 ต.ค.68) บวก 9.72 จุด ดัชนี 1,284.75 จุด

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (1 ต.ค.68) ทำนิวไฮ บวก 24.3 ดอลลาร์ ชัตดาวน์หน่วยงานสหรัฐหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 3, 2025, 5:23 pm