หุ้นทอง
GULF - ความแข็งแกร่งและโอกาสเติบโต แนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 57 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นการวิเคราะห์หุ้นบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” และให้เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 57 บาท อ้างอิงจากการประเมินมูลค่าแบบ SOTP (ผลรวมมูลค่าแต่ละธุรกิจ) ด้วยงบดุลที่แข็งแกร่งและแนวโน้มภาคพลังงานที่เป็นบวก KKPS จึงมองว่า GULF จะเป็นผู้นำด้านการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ในปี 2026
 
 
หลังการควบรวมกับบริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (INTUCH) อัตราหนี้สินต่อทุนสุทธิลดลงจาก 1.8 เท่า เหลือเพียง 0.8 เท่า ต่ำกว่าระดับเป้าหมายภายในที่ 2.0 เท่า ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการขยายธุรกิจและเพิ่มผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ รายได้จากเงินปันผลของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (ADVANC) จะช่วยเสริมสภาพคล่องเงินสด หนุนให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลเพิ่มขึ้นจาก 3.2% ในช่วงปี 2026-2028 เป็น 6.3% ในปี 2031
 
 
 
KKPS คาดการณ์ว่า GULF จะได้รับประโยชน์จากขาขึ้นของการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย ซึ่งคาดว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าของดาต้าเซ็นเตอร์จะเพิ่มจาก 120 เมกะวัตต์ เป็น 1-3 กิกะวัตต์ ในไม่กี่ปีข้างหน้า การขยายตัวนี้จะทำให้การสำรองไฟฟ้าของประเทศลดลง ซึ่งจะเปิดโอกาสให้มีการประมูลโรงไฟฟ้าใหม่
 
KKPS คาดว่าการสำรองไฟจะลดลงจาก 30% เหลือ 16-23% (มาตรฐานโลกอยู่ที่ 15%) โดยทุกการขยายกำลังผลิต 100 เมกะวัตต์ จะเพิ่มมูลค่าหุ้นประมาณ 0.12 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ GULF มีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เช่น ADVANC, Singtel และ Binance ขณะที่สัญญาขายไฟระยะยาวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ช่วยสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและลดความเสี่ยงด้านการเมืองหรือภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ความล่าช้าในการดำเนินโครงการ ต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น และผลการดำเนินงานของ ADVANC ที่อ่อนตัวลง ถือเป็นความเสี่ยงด้านลบ
 
 
KKPS มองว่า GULF ควรซื้อขายที่มูลค่าสูงกว่าคู่แข่ง เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของกำลังผลิตที่แข็งแกร่ง จาก 15,000 เมกะวัตต์ ในปี 2025 เป็น 25,000 เมกะวัตต์ ในปี 2032 และการมีส่วนร่วมในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่เติบโตเร็ว ทั้งในสหรัฐฯ และในประเทศไทย มีศักยภาพเติบโตสูง ตามข้อมูลจาก DCByte ประเทศไทยมีแนวโน้มจะกลายเป็นศูนย์กลางดาต้าเซ็นเตอร์ของภูมิภาคใน 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตระยะยาวของ GULF
 
ในระยะสั้น เราคาดว่ากำไรต่อหุ้นปี 2026 จะเติบโต 22% สูงกว่าคู่แข่งอย่างบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) และบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM) ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาหุ้นปรับขึ้น ความเสี่ยงหลักอยู่ที่ความเป็นไปได้ในการปรับเงื่อนไขสัญญาผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) แต่ KKPS มองว่ายังเร็วเกินไปที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่น เนื่องจากสัญญา IPP ปัจจุบันยังมีอายุอีก 15-20 ปี ทำให้ความเสี่ยงต่ำกว่าบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO), บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) และ GPSC
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 ต.ค. 2568 เวลา : 17:10:41
20-10-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (17 ต.ค.68) ลบ 16.85 จุด ดัชนี 1,274.61 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 ต.ค.68) ลบ 7.25 จุด ดัชนี 1,284.21 จุด

3. MTS Gold คาดราคาทองคำประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับ 4,200 เหรียญ และมีแนวต้าน 4,260 เหรียญ

4. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.55 บาท/ดอลลาร์

5. พยากรณ์อากาศวันนี้ (17 ต.ค.68) ภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 60-70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคเหนือ-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก 40% ภาคอีสาน 30%

6. ตลาดหุ้นไทยเปิด (17 ต.ค.68) ลบ 8.22 จุด ดัชนี 1,283.24 จุด

7. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (16 ต.ค.68) ร่วง 301.07 จุด กังวลความอ่อนแอธนาคารภูมิภาคในสหรัฐ

8. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (16 ต.ค.68)พุ่ง 103 เหรียญ ทะลุ 4,300 ดอลลาร์ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย-เก็งเฟดลดดอกเบี้ย

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (17 ต.ค. 68) พุ่งขึ้นแรง 1,600 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 67,700 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (17 ต.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (16 ต.ค.2568) บวก 4.77 จุด ดัชนี 1,291.46 จุด

12. ประกาศ กปน.: 21 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำประชานุกูล

13. ประกาศ กปน.: 21 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพุทธมณฑลสาย 1

14. MTS Gold คาดราคาทองยังคงอยู่ในสภาวะ Bullish (ขาขึ้น) ที่แข็งแกร่ง ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับ 4,200 เหรียญ และมีแนวต้าน 4,260 เหรียญ

15. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (16 ต.ค.68) บวก 4.08 จุด ดัชนี 1,290.77 จุด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 20, 2025, 5:49 am