หุ้นทอง
TK ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 รายได้รวม 206.2 ล้านบาท กำไรโต 249% พอร์ตลูกหนี้เช่าซื้อ - กู้ยืม มูลค่า 1,618.0 ล้านบาท


บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทยรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 มีรายได้ 206.2 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 8.0 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้รวม 9 เดือนอยู่ที่ 695.4 ล้านบาท โดยมีพอร์ตลูกหนี้เช่าซื้อ–กู้ยืมสุทธิรวม 1,618 ล้านบาท มองเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้โครงการ “คนละครึ่ง” จะช่วยพยุงกำลังซื้อระยะสั้น แต่ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงยังจำกัดการชำระหนี้ของผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ธปท. เริ่มกำกับธุรกิจเช่าซื้อให้ผู้ประกอบการรายงานตัวตามเกณฑ์ใหม่ ทั้งนี้ TK ยังคงถือเงินสด เงินฝากธนาคาร และเงินลงทุน 3,545.6 ล้านบาท เตรียมปิดปี 2568 ด้วยการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตอย่างรอบคอบ มีประสิทธิภาพ และดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบกำกับดูแลใหม่ของภาครัฐ

 
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 3/2568 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย TK มีรายได้ 206.2 ล้านบาท ลดลง 28.5% จาก 288.4 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 8.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 249% จากที่มีผลขาดทุนสุทธิ 5.4 ล้านบาท ไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา รายได้รวม 9 เดือนอยู่ที่ 695.4 ล้านบาท ลดลง 29.3% จาก 983.2 ล้านบาท กำไรสุทธิ 98.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 429.8% จากขาดทุนสุทธิ 30 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ในไตรมาส 3 ปีนี้ TK เร่งตัดหนี้สูญพิเศษ 38.2 ล้านบาท ซึ่งหากไม่มีรายการพิเศษดังกล่าว กำไรสุทธิของ TK ในไตรมาส 3 และรวม 9 เดือน จะเพิ่มเป็น 46.2 ล้านบาท และ 137.1 ล้านบาท ตามลำดับ

ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไตรมาส 3/2568 จำนวน 414,514 คัน เพิ่มขึ้น 4.28% จาก 397,488 คัน ยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ 9 เดือนแรก ปี 2568 จำนวน 1,332,199 คัน เพิ่มขึ้น 2.35% จาก 1,301,631 คัน จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนยอดจำหน่ายรถยนต์ ไตรมาส 3 ปี 2568 จำนวน 145,275 คัน เพิ่มขึ้น 11.21% จาก 130,632 คัน ยอดจำหน่ายรถยนต์ 9 เดือนแรก ปี 2568 มีจำนวน 447,969 คัน เพิ่มขึ้น 2.12% จาก 438,659 คัน จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

TK ได้ดำเนินงานโดยใช้กลยุทธ์การขยายพอร์ตสินเชื่อด้วยความระมัดระวังและเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เน้นการเติบโตที่เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ด้านการบริหารงานภายในองค์กร เน้นการบริหารต้นทุนต่าง ๆ ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ขณะที่คงรักษาสถานะเงินสดให้พร้อมขยายธุรกิจได้ทันที โดย ณ ไตรมาส 3/2568 TK มีเงินสด เงินฝาก และเงินลงทุนที่ 3,545.6 ล้านบาท อีกทั้ง D/E ณ ไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 0.05 เท่า ซึ่งลดลงจากสิ้นปี 2567 ที่ 0.08 เท่า

 
นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวว่า ณ ไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทฯ มีลูกหนี้เช่าซื้อและลูกหนี้เงินให้กู้ยืมสุทธิรวม 1,617.5 ล้านบาท ลดลง 18.9% จาก 1,994.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 สัดส่วนสินเชื่อในต่างประเทศลดลงมาอยู่ที่ระดับ 923.3 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2568 โดยในกัมพูชา มีลูกหนี้รวม 769.6 ล้านบาท ลดลง 3.3% จาก 796.1 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ใน สปป.ลาว มีลูกหนี้ 153.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% จาก 148.7 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา ด้านคุณภาพลูกหนี้ของบริษัทฯ มีลูกหนี้ค้างชำระเกิน 3 เดือน ที่ 6.7% ซึ่งดีขึ้นเมื่อเทียบกับคุณภาพลูกหนี้สิ้นปี 2567 ที่ 7.0%

“สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในไตรมาส 3/2568 เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวที่ลดลง แต่การส่งออกยังเติบโตได้ดี ส่วนในไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 นี้ เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้โครงการภาครัฐอย่าง “คนละครึ่ง” จะช่วยพยุงกำลังซื้อระยะสั้น แต่ภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงยังคงจำกัดความสามารถในการชำระหนี้ ส่งผลให้ธุรกิจเช่าซื้อต้องใช้ความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ขณะเดียวกันการเข้ากำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เริ่มให้ผู้ประกอบการรายงานตัวตามเกณฑ์ใหม่ ทำให้อุตสาหกรรมต้องเร่งปรับตัวในการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศ ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงปัญหาสงครามที่ยังยืดเยื้อ ที่จะกดดันให้เศรษฐกิจทั้งในประเทศและในระดับโลกเปราะบางและชะลอตัว อย่างไรก็ตาม TK เตรียมพร้อมปรับการดำเนินงานและปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยถือเงินสดในมือให้เพียงพอตลอดเวลา” นายประพลกล่าว

ด้านการปรับการดำเนินงานให้สอดรับกับการเข้ากำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย ทาง TK ได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามหลักเกณฑ์การกำกับดูแลทุกด้าน โดยเฉพาะการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ทั้งนี้ ในไตรมาส 4 ปี 2568 ในส่วนของธุรกิจเช่าซื้อซึ่งเป็นธุรกิจหลัก TK มีแผนดำเนินงาน ด้วยการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อและเน้นประสิทธิภาพในการดำเนินงาน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินกลยุทธ์สร้างการเติบโตจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ที่สามารถสร้างรายได้และผลตอบแทนให้สูงขึ้น ด้วยบริการสินเชื่อประเภทอื่น อาทิ สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักร สินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สินเชื่อจำนำทะเบียน และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ รวมทั้งสร้างการเติบโตของธุรกิจเช่าซื้อที่ TK มีความเชี่ยวชาญทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 พ.ย. 2568 เวลา : 12:23:50
14-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (14 พ.ย.68) ลบ 18.18 จุด ดัชนี 1,269.26 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (14 พ.ย.68) ลบ 20.07 จุด ดัชนี 1,267.37 จุด

3. พยากรณ์อากาศวันนี้ (14 พ.ย.68) ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา "ยอดดอย - ยอดภู" อากาศหนาวเย็น 9-10 องศา "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40%

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ร่วง 797.60 จุด นักลงทุนลดความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ลบ 19.1 ดอลลาร์ วิตกเฟดเมินลดดอกเบี้ย

6. MTS Gold คาดราคาทองคำทิศทางโดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น "Sideway Up" แนวรับที่ 63,800 บาท และแนวต้านที่ 64,700 บาท

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (14 พ.ย.68) ร่วงลง 600 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,950 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (14 พ.ย.68) ลบ 7.35 จุด ดัชนี 1,280.09 จุด

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (14 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25 - 32.50 บาท / ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (13 พ.ย.68) บวก 2.63 จุด ดัชนี 1,287.44 จุด

12. พยากรณ์อากาศวันนี้ (13 พ.ย.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 10% และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (13 พ.ย.68) บวก 3.14 จุด ดัชนี 1,287.95 จุด

14. MTS Gold คาดราคาทองคำ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,180-4,150 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,230-4,250 เหรียญ

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 326.86 จุด รับความหวังชัตดาวน์ใกล้สิ้นสุดลง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 14, 2025, 5:32 pm