หุ้นทอง
แสนสิริสรุปผลการดำเนินงาน 9 เดือน กำไร 3,029 ล้านบาท ชี้สัญญาณเรียลดีมานด์หนุน เตรียมรับรู้รายได้ไตรมาส 4 พีคสุด




· แสนสิริ เผยผลประกอบการเก้าเดือนแรกของปี รายได้รวมอยู่ที่ 23,670 ล้านบาท และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 3,029 ล้านบาท บริหารจัดการอย่างมีคุณภาพท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจโดยรวม

· คาด Q4 เซ็นทิเมนต์ดีขึ้น โดยมียอดขายสะสมแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท แนวราบกำลังซื้อกลับมา จากโครงการเปิดใหม่ทยอยโอน รวมถึงคอนโดพร้อมอยู่จาก Strategic Location (เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต) ที่มียอดขายเฉลี่ยกว่า 70% และจ่อรับรู้รายได้ภายในปี

· โค้งสุดท้ายอัดโปรแรง กระตุ้นกำลังซื้อ เสริมด้วยยอดขายจากงานมหกรรมบ้านและคอนโด


 
นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า “แม้ปี 2568 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในภาพรวม โดยแสนสิริยังคงสามารถรักษาเสถียรภาพของผลประกอบการไว้ได้ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ สอดคล้องกับภาพรวมของตลาด โดย 9 เดือนที่ผ่านมา (สิ้นสุด 30 กันยายน 2568) ) สามารถทำรายได้รวมได้ 23,670 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,029 ล้านบาท ซึ่งมาจากการดำเนินงานที่รอบคอบและแผนธุรกิจที่ยืดหยุ่นภายใต้สถานการณ์ที่ผันผวน ทั้งนี้ หากวิเคราะห์ภาพรวมของผลประกอบการดังกล่าว ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาถึง 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ”

แสนสิริคาดว่าแนวโน้มธุรกิจในโค้งสุดท้ายของปี (ไตรมาส 4/2568) จะเป็นไตรมาสที่ทำผลงานได้ดี ทั้งในมิติของยอดโอนและยอดรับรู้รายได้ จากแผนการเปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวมสูงถึง 18,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทมียอดขายสะสมของไตรมาส 4 อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง จากทั้งโครงการแนวราบที่เปิดใหม่ รวมถึงคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่รวม 7 โครงการ มูลค่ารวม 9,600 ล้านบาท ที่จะเข้ามาเสริมรายได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะโครงการในหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต ที่มียอดขายเฉลี่ยสูงกว่า 70% แล้ว นอกจากนี้ ยังสามารถทำยอดขายจากงานมหกรรมบ้านและคอนโดล่าสุดทะลุเป้ากว่า 2,300 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าเรียลดีมานด์ (Real Demand) หรือความต้องการซื้อจริงของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อยังคงมีอยู่อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะเมื่อแสนสิริในฐานะผู้ประกอบการชั้นนำ นำเสนอสินค้าคุณภาพในราคาที่คุ้มค่าพร้อมโปรโมชันที่โดนใจลูกค้า

เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำและสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด แสนสิริจึงได้เดินหน้ากระตุ้นกำลังซื้อในช่วงท้ายปีด้วยการแคมเปญโปรโมชันใหญ่สุดพิเศษ คือ “แสนสิริ อลังเซล” ลดใหญ่ ตัวจริง…แห่งปี ที่มอบส่วนลดสูงสุดถึง 10 ล้านบาท* ครอบคลุมทั้งบ้าน คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม รวมกว่า 109 โครงการ ราคาพิเศษทุกยูนิตเริ่มต้นตั้งแต่ 8.9 แสน – 29.9 ล้านบาท พร้อมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารพันธมิตรชั้นนำ เช่น ผ่อนต่ำเริ่มต้นเพียงล้านละ 2,500 บาท แคมเปญนี้จัดถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 เพื่อให้ทุกคนได้มีบ้านใหม่ต้อนรับปีใหม่ ด้วยข้อเสนอแห่งปี

ทางด้านการกำกับดูแลกิจการ ล่าสุด แสนสิริได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ (CGR) ปี 2568 ในระดับ “ดีเลิศ” เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และได้รับผลการประเมิน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ที่ระดับ AAA โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนการทำงานอย่างจริงจังและต่อเนื่องของแสนสิริในด้าน ESG ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ตลอดจนรักษาระดับผลประกอบการให้เติบโตอย่างสม่ำเสมอ สร้างผลตอบแทนสูงสุดกับ ผู้ถือหุ้น และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับสังคมและประเทศ

Note to Editor

· 9 เดือน Sold Out รวม 19 โครงการ มูลค่า 21,000 ล้านบาท

· ไตรมาส 4 เปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่า 18,000 ล้านบาท อาทิ เศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต, บุราสิริ จตุโชติ, สราญสิริ จตุโชติ และคอนโดมิเนียมใหม่บนทำเล กะทู้ ภูเก็ต เพื่อรองรับความต้องการใน ตลาดเมืองท่องเที่ยว

· มีโครงการพร้อมขายกว่า 135 โครงการ และที่สำคัญยังให้ความสำคัญกับขยายโอกาสในการลงทุน กับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน

· มียอดขายพร้อมโอน (backlog) สูงถึง 25,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ได้ไปจนถึงปี 2571

#Sansiri #Everydaylifeisgood #ทุกวันชีวิตดี #SansiriNo1Brand #แสนสิริแบรนด์อันดับหนึ่ง

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 14 พ.ย. 2568 เวลา : 12:47:02
14-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (14 พ.ย.68) ลบ 18.18 จุด ดัชนี 1,269.26 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (14 พ.ย.68) ลบ 20.07 จุด ดัชนี 1,267.37 จุด

3. พยากรณ์อากาศวันนี้ (14 พ.ย.68) ภาคเหนือ-ภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา "ยอดดอย - ยอดภู" อากาศหนาวเย็น 9-10 องศา "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40%

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ร่วง 797.60 จุด นักลงทุนลดความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (13 พ.ย.68) ลบ 19.1 ดอลลาร์ วิตกเฟดเมินลดดอกเบี้ย

6. MTS Gold คาดราคาทองคำทิศทางโดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น "Sideway Up" แนวรับที่ 63,800 บาท และแนวต้านที่ 64,700 บาท

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (14 พ.ย.68) ร่วงลง 600 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,950 บาท

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (14 พ.ย.68) ลบ 7.35 จุด ดัชนี 1,280.09 จุด

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (14 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25 - 32.50 บาท / ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (13 พ.ย.68) บวก 2.63 จุด ดัชนี 1,287.44 จุด

12. พยากรณ์อากาศวันนี้ (13 พ.ย.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้" ฝนฟ้าคะนอง 40% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 10% และอุณหภูมิลดลง 1-3 องศา

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (13 พ.ย.68) บวก 3.14 จุด ดัชนี 1,287.95 จุด

14. MTS Gold คาดราคาทองคำ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,180-4,150 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,230-4,250 เหรียญ

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (12 พ.ย.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 326.86 จุด รับความหวังชัตดาวน์ใกล้สิ้นสุดลง

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 14, 2025, 5:32 pm