เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ติดตามภาษีศุลกากรสหรัฐฯ"


คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/รอเบรก ปัจจัยในประเทศมีปัจจัยหนุนระยะสั้นสัญญาณภาษีศุลกากรไทย-สหรัฐฯ ดีขึ้น นายกฯ ชี้ว่า ปธน. ทรัมป์พร้อมลดภาษีแลกไทยกู้ทุ่นระเบิดเป็นสัญญาณบวก แต่ปัจจัยภายนอกยังเป็นลบ ความกังวล Valuation หุ้นเทคฯ กดดันหุ้นเอเชีย ในขณะที่กรรมการเฟดหลายท่านออกมาส่งสัญญาณระมัดระวังในการลดดอกเบี้ย แต่ภาคแรงงานที่แย่ยังหนุน ทางเทคนิค แกว่งในกรอบหากหลุดต่ำกว่า 1265 จะกลับมาลงรอบใหม่ แต่หากยืนเหนือ 1280 ได้มีช่วงรีบาวด์ต่อ

ประเด็นสำคัญ

• นายกฯ เผยเพิ่มเติมว่า ปธน. สหรัฐฯ จะลดภาษีนำสำหรับไทยอีก 2% จากปัจจุบันที่อัตรา 19% หากไทยสามารถเร่งเก็บกู้ทุ่นระเบิดได้เร็วขึ้น เป็น Sentiment เชิงบวกต่อภาคส่งออก หนุนความได้เปรียบการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศ ติดตามรายละเอียดและความคืบหน้าการค้ากับ USTR

• ธปท. เผยภาพรวมสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ใน 3Q68 หดตัว 1.0%YoY จากสินเชื่อ SMEs และครัวเรือนที่อ่อนแอ ส่วนสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ขยายตัวได้เล็กน้อย แต่สัดส่วน NPL เพิ่มขึ้นเป็น 2.94% จากฐานสินเชื่อที่หดตัว ภาพรวมของระบบธนาคารพบว่ายังมีเงินทุน, สภาพคล่อง และเงินสำรองสูงท่ามกลางภาวะ ศก. ชะลอ

• ครม. เห็นชอบการปรับปรุงแผนการคลังระยะปานกลาง (MTFF) ช่วงปีงบ 2569-2573 โดยจะกำหนดกรอบการคลังให้เข้มงวดขึ้น และกำหนดเป้าหมายการขาดดุลไม่เกิน 3% ของ GDP ภายในปี 2572 จาก 4.4%, เพิ่มรายได้ให้ไม่ต่ำกว่า 15.1% ของ GDP จาก 14.8% และลดรายจ่ายให้เหลือ 18% ของ GDP จาก 19%

• ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei225 วานนี้ปรับลง 3.2% ตามแรงขายกลุ่มหุ้นเทคฯ สหรัฐฯ และความกังวลต่อสถานะทางการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งได้กดดันให้เกิดการเทขายเงินเยนและพันธบัตรญี่ปุ่น ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นระยะ 10 ปีพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 17 ปี ที่ 1.75%

• Cloudflare (NET.US) สามารถแก้ไขปัญหาระบบเว็ปไซด์ขัดข้องได้แล้วหลังเกิดเหตุคืนวานนี้ หลังพบปริมาณข้อมูลเข้าสู่ระบบมากผิดปกติ มีเว็ปไซด์หลายร้อยแห่งได้รับผลกระทบ เช่น OpenAI, Perplexity, ChatGPT, X, Gemini, Canva

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัวหรือแกว่งตัวลง หลังตลาดเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่ โดยทางเทคนิคหลังดัชนีหลุดต่ำกว่าแนวรับสำคัญ 1285 ทำให้มีโอกาสแกว่งลงไปที่บริเวณ 1265/1240 ส่วนปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาซึ่งอาจกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในระยะสั้น แม้คาดจะมีผลกระทบจำกัดต่อผลประกอบการ บจ. ไทยโดยรวม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ FOMC Minutes, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญทั้งภาคแรงงาน NFPs และภาคเงินเฟ้อ PCE CPI หากหน่วยงานราชการกลับมาเปิด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักตัวหรือแกว่งตัวลง หลังตลาดเริ่มขาดปัจจัยบวกใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 2 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BCPG BEM BGRIM PTT

2. หุ้นปันผลคุณภาพดีซึ่งมี SET ESG Ratings A-AAA เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตระยะสั้น โดยคาดจะมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2568 หลังหักเงินปันผลจ่ายระหว่างกาลแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5% และเราแนะนำ Outperform ได้แก่ BAM KTB AP SIRI TOP BLA   

3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (BAM MTC) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย 2) หุ้นที่คาดมีโอกาสได้ประโยชน์จากสถานการณ์น้ำท่วมขังเฉพาะจุด แนะนำ TASCO HMPRO GLOBAL ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นที่อาจจะได้รับผลกระทบจิตวิทยา หากสถานการณ์ความตึงเครียดไทย-กัมพูชาบานปลายรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่าง CBG SAV

Daily Top Picks

AMATA: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากมีโอกาสการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ อาจได้ลดภาษีลง ขณะที่ Backlog ปัจจุบันที่ 22,500 ลบ. คาดหนุนผลประกอบการปี 2568-2569 ส่วน 4Q68 คาดยอดโอนแข็งแกร่งและอาจส่งผลต่อ Upside ของกำไรสุทธิจากประมาณการของเราที่ 2,669 ลบ. เป้าหมายระยะสั้นที่ 16.50 บาท

LHHOTEL: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มดีขึ้นและผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q68 โดย 4Q68 คาดกำไรจะยังเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล ประเมินเป้าหมายระยะสั้นที่ 13.00 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 พ.ย. 2568 เวลา : 11:33:07
20-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 24 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนประชาชื่น

2. ตลาดหุ้นปิด (19 พ.ย.68) บวก 2.13 จุด ดัชนี 1,272.17 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 พ.ย.68) ลบ 4.20 จุด ดัชนี 1,265.84 จุด

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่ิอคืน (18 พ.ย.68) ลบ 8 เหรียญ จับตาตัวเลขจ้างงานประเมินดอกเบี้ยเฟด

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (18 พ.ย.68) ร่วง 498.50 จุด นักลงทุนกังวลฟองสบู่ AI-ผิดหวังผลประกอบการ Home Depot

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.50บาท/ดอลลาร์

7. ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง ภาคอีสาน อุณหภูมิลด 2-4 องศา ภาคเหนือ-ภาคกลาง-กรุงเทพปริมณฑล ภาคตะวันออก ลด 1-3 องศา ภาคใต้ ฝน 70-80%

8. MTS Gold คาดราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวต่อไปได้ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,020-4,000 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,100-4,120 เหรียญ

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 พ.ย.68) บวก 1.81 จุด ดัชนี 1,271.85 จุด

10. ทองเปิดตลาดวันนี้ (19 พ.ย. 68) ปรับขึ้น 150 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 63,050 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 พ.ย.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: 20 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระสุเมรุ

13. ตลาดหุ้นปิด (18 พ.ย.68) ลบ 10.03 จุด ดัชนี 1,270.04 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 พ.ย.68) ลบ 10.14 จุด ดัชนี 1,269.93 จุด

15. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 พ.ย.68) ลบ 19.7 เหรียญ เหตุดอลลาร์แข็งค่าฉุดตลาด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 20, 2025, 5:28 am