· เหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนว่าไทยได้รับผลกระทบจาก Climate Change สูงขึ้น ในรูปแบบ "แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ" ที่ทำให้ฝนตกปริมาณมากในระยะเวลาสั้น ๆ
· ในต่างประเทศ รัฐบาลมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Government) ลงทุนกว่า 50,000 ล้านเยน (ราว 330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อเสริมความพร้อมของเมืองต่อพายุและน้ำท่วมที่รุนแรงขึ้น โดยการออกพันธบัตร Climate Resilience Bonds เพื่อรับมือผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและ Climate Change
· ภาครัฐไทยจึงควรเร่งออก ESG Bonds เช่น Climate Resilience Bonds เพื่อลงทุนระบบป้องกันและลดผลกระทบจากภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้นในอนาคต
น้ำท่วมหาดใหญ่: ผลกระทบจาก Climate Change ในไทยที่รุนแรงขึ้น
เหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนถึงความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศที่สูงขึ้นในรูปแบบ "แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ" (Atmospheric Rivers: ARs) จากภาวะโลกร้อนที่ทำให้ชั้นบรรยากาศกักเก็บไอน้ำได้มากขึ้น ส่งผลให้ความเข้มข้นและความถี่ของ ARs เพิ่มขึ้น
ปริมาณน้ำฝนสะสมเดือน พ.ย. ปี 2025 ของหาดใหญ่สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 86.3% (YoY) และปริมาณฝนในบางวันแตะระดับ 370 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าปริมาณฝนสะสมทั้งเดือน พ.ย. ในปี 2020 และปี 2022
ไทยยังขาดเงินทุนเพื่อรับมือผลกระทบจาก Climate Change
ภาครัฐไทยมีเงินทุนเพื่อรองรับผลกระทบจาก Climate Change เพียง 15%-18% ของคาดการณ์ความเสียหายต่อปี โดยรัฐบาลไทยลงทุนโครงการด้านการปรับตัวต่อ Climate Change เฉลี่ย 29,027 ล้านบาท/ปี1 ขณะที่ UNESCAP ประเมินว่าประเทศไทยจำเป็นต้องใช้งบประมาณสูงถึง 165,000-192,043 ล้านบาท/ปี
นอกจากนี้ พันธบัตรรัฐบาล ESG ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดช่องว่างทางการเงินดังกล่าวได้โดยตรง กลับขาดการนำไปใช้เพื่อรับมือปัญหา Climate Change
ภาครัฐไทยออก Sustainability Bonds และ Sustainability-linked Bonds คิดเป็นสัดส่วนกว่า 65% ของยอดคงค้างตราสารหนี้ ESG ทั้งหมด แต่เงินทุนส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เพื่อการเยียวยาและปรับโครงสร้างหนี้จาก COVID-19 และลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีชมพู
Climate Resilience Bonds ช่วยภาครัฐปิดช่องว่างเงินทุนรับมือ Climate Change
รัฐบาลมหานครโตเกียว (TMG) เตรียมออก Climate Resilience Bonds ที่ได้รับการรับรองเป็นครั้งแรกของโลก เพื่อรับมือผลกระทบจากภัยพิบัติและ Climate Change มูลค่าราว 50,000 ล้านเยน (330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
เงินระดมทุนจะถูกนำไปเสริมความพร้อมของเมืองต่อพายุและน้ำท่วมที่รุนแรงขึ้นจาก Climate Change อาทิ โครงการป้องกันพื้นที่ชายฝั่ง โครงการเสริมความแข็งแรงของตลิ่งแม่น้ำและทางระบายน้ำหลาก และโครงการพัฒนาระบบระบายน้ำฝน
พันธบัตรทั่วไปมักไม่ระบุวัตถุประสงค์ด้านการรับมือกับ Climate Change อย่างชัดเจน ขณะที่ Climate Resilience Bonds ช่วยให้รัฐระดมทุนเพื่อการปรับตัว (Adaptation) ได้ตรงตามเป้าหมาย พร้อมมาตรฐานสากลที่ตรวจสอบและติดตามการใช้เงินได้อย่างชัดเจน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าภาครัฐไทยควรเร่งออก Climate Resilience Bonds เช่นเดียวกับญี่ปุ่น เพื่อเร่งพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า การวางโครงสร้างพื้นฐานป้องกันน้ำท่วม รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีบริหารจัดการภัยพิบัติสมัยใหม่ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและจำนวนผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในอนาคตที่รุนแรงขึ้น
.png)
.png)
ข่าวเด่น