เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "เข้าสู่โหมดเลือกตั้ง การประชุม กนง."


 

คาดตลาดไซด์เวย์/ชะลอตัว กกต.ประกาศวันเลือกตั้งวันที่ 8 ก.พ. หนุนตลาดเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง และส่วนหนึ่งเก็งกำไรการประชุม กนง. ลดดอกเบี้ยในวันพุธนี้ อย่างไรก็ตามประเด็นเรื่องการปะทะกันระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา อาจทำให้สหรัฐฯ นำประเด็นนี้มากดดันเรื่องภาษีศุลกากรอีกครั้งเป็นความเสี่ยง ทางเทคนิค ไม่หลุดต่ำกว่า 1250-1248 นัก กลับมาขึ้นมีแนวต้านถัดไปที่ 1280/1285 ยืนเหนือได้จึงจะเป็นการแกว่งตัวขึ้นต่อ ในขณะที่การอ่อนตัวลงมีแนวรับที่ 1270/1265 ที่ไม่ควรต่ำกว่า

ประเด็นสำคัญ

• กกต. เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง สส. และกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 ก.พ. 2569 และวันรับสมัคร สส. และแคนดิเดตนายกฯ ระหว่าง 27-31 ธ.ค. 2568 

• รมว. คลังเผยได้วางรากฐานรองรับยุบสภาไว้แล้วและชะลอการออกนโยบายใหม่ แต่ยืนยัน ศก. ประเมิน GDP ปี 2568 เติบโตกว่า 2% ติดตาม กกต. อนุมัติโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เฟสสองและการแก้ไขกฎหมายต่างๆ ส่วนโครงการรถไฟทางคู่เฟสสองรอรัฐบาลใหม่

• ธปท. ได้สั่งการให้สถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดธุรกรรมขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าของกลุ่มผู้ค้าทองคำ ซึ่งจะต้องตรวจหลักฐานการขายทองทุกธุรกรรมเพื่อให้มั่นใจว่าธุรกรรมเกิดขึ้นจริง 

• เศรษฐกิจจีนใน พ.ย. 2568 ยังคงอ่อนแรง หลังเผยยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตฯ ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด, การลงทุนสินทรัพย์ถาวรหดตัวสูงกว่าคาด และราคาบ้านใหม่และบ้านมือสองลดลงต่อเนื่อง บ่งชี้ภาคอสังหาฯ จีนคงเผชิญภาวะวิกฤตและยืดเยื้อกว่า 4 ปี 

• ตลท. ประกาศ 265 บจ. ผ่านเกณฑ์ SET ESG Ratings ปี 2568 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 219 บจ. พบ 57 บจ. ที่ผ่านเกณฑ์ในปีนี้เป็นครั้งแรกและ 89 บจ. ที่มีอันดับสูงขึ้น แต่พบ 6 บจ. ที่อันดับลดลงและ 11 บจ. ที่เคยผ่านเกณฑ์ปีก่อนแต่ไม่ผ่านเกณฑ์ในปีนี้ และในปี 2569 ตลท. จะปรับไปใช้การประเมินตาม FTSE Russell ESG Scores แทน

• ตลาดจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในคืนนี้ โดย Non-Farm Payrolls จะมีรายงานใน 2 เดือน ได้แก่ เดือนพ.ย. และ ต.ค. ตลาดคาดเดือน พ.ย.เพิ่มเพียง 40,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานคาดทรงตัว 4.4% รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ตลาดคาดขยายตัว 0.2% 

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาส Sideway down จากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทย โดยมีแนวโน้มลงไปทดสอบฐานเดิมบริเวณ 1230 และมีกรอบบนจำกัดที่ 1285 โดยมีปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญ ได้แก่ BoJ (ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bps สู่ 0.75%), ECB และ BoE (ตลาดคาดจะยังคงดอกเบี้ยนโยบาย) รวมถึง กนง. (ตลาดคาดปรับลดดอกเบี้ย 25bps สู่ 1.25%) และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ เงินเฟ้อ พ.ย., PCE ต.ค. และตัวเลขภาคแรงงาน พ.ย. ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามไทม์ไลน์การประกาศวันเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หลังมีการประกาศยุบสภา ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสปรับลงจากกังวลสุญญากาศทางการเมืองไทยและขาดมาตรการกระตุ้นใหม่ อีกทั้งรอติดตามผลประชุมนโยบายการเงินของ กนง. กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก คาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform แนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT

2. หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI

3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในวันที่ 17 ธ.ค. นี้ และปีหน้า 2 ครั้งในปี 2569 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้ sentiment บวกระยะสั้นหาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายสัปดาห์นี้ แนะนำ AP GULF GPSC MTC SAWAD 2) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT BJC) กลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะสั้นในหุ้นกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะเชื่อมโยงกับนโยบายและโครงการของรัฐ และ 3) หุ้น SET50 ที่คาดได้อานิสงส์จากทำปิด Window Dressing แนะนำ BDMS BH MINT CPF LH ซึ่งราคาหุ้นปรับลง YTD และพบสถิติย้อนหลัง 5 ปีราคาหุ้นจะปรับขึ้นเฉลี่ย 2.2% หากซื้อก่อน 5 วันทำการสุดท้ายก่อนสิ้นปี

Special Report : Yearbook 2026 ซึ่งมาด้วยแนวคิด “Riding the Wild Horse” เพื่อสื่อถึงมุมมองการลงทุนที่คาดจะยังให้ผลตอบแทนได้แต่มีความผันผวนสูง จึงต้องคัดสรรและกระจายการลงทุนมากขึ้น พร้อม 8 หุ้น Top Picks ในตลาดหุ้นไทยที่คัดสรรมาให้ (อ่านเพิ่มได้ในบทวิเคราะห์ซึ่งออกเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2568)

Daily Top Picks

TRUE: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากผลประกอบการที่มีแนวโน้มดีขึ้น รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 3Q68 และคาดจำนวนผู้ใช้รายใหม่สุทธิจะเป็นบวกใน 4Q68 อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนหลังการประมูลคลื่นความถี่หนุน เป้าหมายระยะสั้นที่ 11.50 บาท

BGRIM: มีปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มการปรับลดลงของต้นทุนก๊าซฯ และดอกเบี้ยและได้อานิสงค์เงินบาทแข็ง ในขณะที่กําไรหลักใน 4Q68 คาดเติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY จากต้นทุนก๊าซฯ ที่ลดลงมากกว่าค่าไฟฟ้าที่ลด และคาดกำไรหลักยังโตต่อในปี 2569 อีก +24% จากความต้องการใช้ไฟเพิ่มตาม Data Center ราคาเป้าหมายสั้น 14.80 บาท 
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 ธ.ค. 2568 เวลา : 11:37:47
18-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 20 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนลาดหวาย

2. ตลาดหุ้นปิด (17 ธ.ค.68) ลบ 3.83 จุด ดัชนี 1,256.85 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 ธ.ค.68) ลบ 0.74 จุด ดัชนี 1,259.94 จุด

4. MTS Gold คาดราคาทองคำคาดยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น (Sideway Up) ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,290-4,270 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,350-4,380 เหรียญ

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.65 บาท/ดอลลาร์

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (16 ธ.ค.68) ลบ 302.30 จุด หุ้นพลังงาน-เฮลธ์แคร์ร่วงฉุดตลาด

7. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (16 ธ.ค.68) ลบ 2.90 ดอลลาร์ หลังพุ่งรับความหวังเฟดลดดอกเบี้ย

8. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (17 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.47 บาทต่อดอลลาร์

9. พยากรณ์อากาศวันนี้ (17 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 6 องศา,ภาคใต้ ฝน 30%

10. ทองเปิดตลาดวันนี้ (17 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 350 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,050 บาท

11. ตลาดหุ้นไทยเปิด (17 ธ.ค.68) บวก 1.04 จุด ดัชนี 1,261.72 จุด

12. ตลาดหุ้นปิด (16 ธ.ค.2568) ลบ 12.72 จุด ดัชนี 1,260.68 จุด

13. ประกาศ กปน.: ด่วน!!! คืนวันพรุ่งนี้ 17 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (16 ธ.ค.2568) ลบ 12.37 จุด ดัชนี 1,261.03 จุด

15. MTS Gold คาดราคาทองคำประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,290-4,270 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,360-4,380 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 18, 2025, 10:11 am