เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ธปท. คุมเข้มร้านทอง-เทรดผ่านแอป พบธุรกรรมสูงถึง 40-50% ของจีดีพี เหตุทำบาทแข็ง ถกคลังงัดมาตรการดูแลใกล้ชิด


นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์เงินบาทแข็งอย่างใกล้ชิด และเข้ามาดูแลบางช่วงที่เงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไปหรืออ่อนค่าเร็วเกินไป

โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเงินบาทแข็งค่า มี 3 ประเด็น ได้แก่ 1. การอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในปีนี้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไปแล้ว 10% 2. การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และปัจจัยที่ไม่ใช่เชิงพื้นฐาน เช่น การไหลเข้าของเงินทุน สกุลเงินดิจิทัล และทองคำ ที่เมื่อราคาทองคำขึ้นเร็วมากก็จะส่งผลต่อค่าเงินมากเช่นเดียวกัน โดยในเดือนที่ผ่านมาพบว่าราคาทองคำปรับขึ้นไปแล้ว 5%

“ต้องยอมรับว่าธุรกรรมทองมีผลสำคัญและเป็นแรงกดดันหลักต่อค่าเงินบาทในบางช่วงเวลาด้วย โดยจากข้อมูลพบว่า ปัจจุบันมีผู้ค้าทองคำรายใหญ่ราว 15-16 ราย มีการซื้อขายทองผ่านแพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชัน คิดเป็นธุรกรรมสูงถึงกว่า 40-50% ของจีดีพี ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (FX) รายวันของกลุ่มผู้ค้าทองคำต่อปริมาณการซื้อขายทองรวมทั้งหมดในตลาด เฉลี่ยอยู่ที่ราว 8% แต่ในวันที่เงินบาทขึ้นลงเร็ว หรือแข็งค่าเร็วนั้น ปริมาณการซื้อขาย FX ของร้านทองอาจสูงถึง 20.5% ของปริมาณการซื้อขายในตลาดทั้งหมด ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่น่ากังวล”ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว

นายวิทัยกล่าวต่อไปว่า ธปท.ได้มีการหารือกับกระทรวงการคลัง ในการแก้ประกาศเพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลธุรกิจทองคำ โดยเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่และแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงการเรียกดูข้อมูลการทำธุรกรรมในบางส่วนที่เกี่ยวกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ รวมถึงสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารก่อนรับทำธุรกรรม FX ที่เกี่ยวข้องกับทองคำ โดยต้องเรียกหลักฐานทุกธุรกรรม เพื่อป้องกันการนำเงินเข้าประเทศที่ไม่พึงประสงค์หรือไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนหารือกับหน่วยงานที่ออกพันธบัตรขนาดใหญ่ เพื่อขอให้ชะลอการออกพันธบัตรในช่วงที่ค่าเงินผันผวน เพื่อลดแรงจูงใจในการไหลเข้าของเงินทุน นอกจากนี้ ยังมีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อช่วยติดตามแหล่งที่มาของสกุลเงินดิจิทัล (คริปโตเคอร์เรนซี) เพราะในส่วนนี้เป็นจุดที่สังคมต่างตั้งคำถามว่าเกี่ยวข้องกับเงินเทา หรือไม่เทา โดยทั้งหมดต้องเป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยกัน

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 ธ.ค. 2568 เวลา : 16:32:25
18-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 22 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนอ่อนนุช (ซอยสุขุมวิท 77)

2. ตลาดหุ้นปิด (8 ธ.ค.68) ลบ 6.78 จุด ดัชนี 1,250.07 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 ธ.ค.68) ลบ 4.78 จุด ดัชนี 1,252.07 จุด

4. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงรักษาแนวโน้มหลักเป็นขาขึ้น ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,310-4,290 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,360-4,380 เหรียญ

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (17 ธ.ค.68) ร่วง 228.29 จุด กังวลแนวโน้มธุรกิจ AI

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 ธ.ค.68) บวก 41.60 ดอลลาร์ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย-เก็งเฟดลดดอกเบี้ยต่อ

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (18 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา, ภาคใต้ฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง 30-40%

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (18 ธ.ค.68) บวก 0.47 จุด ดัชนี 1,257.32 จุด

9. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.35-31.60 บาท/ดอลลาร์

10. ทองเปิดตลาดวันนี้ (18 ธ.ค. 68) ปรับขึ้น 200 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,350 บาท

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (18 ธ.ค.68) ทรงตัว ที่ระดับ 31.50 บาทต่อดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: 20 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนลาดหวาย

13. ตลาดหุ้นปิด (17 ธ.ค.68) ลบ 3.83 จุด ดัชนี 1,256.85 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 ธ.ค.68) ลบ 0.74 จุด ดัชนี 1,259.94 จุด

15. MTS Gold คาดราคาทองคำคาดยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น (Sideway Up) ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,290-4,270 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,350-4,380 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 18, 2025, 10:05 pm