แบงก์-นอนแบงก์
EXIM BANK ประเมินแนวโน้มส่งออกไทยปี 69 ขยายตัว 0-2% พร้อมเดินหน้าบทบาท Export Co-pilot เคียงข้าง ขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่ตลาดโลก


 
นายชลัช รัตนบุญนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวในงานแถลงนโยบาย "EXIM BANK กับบทบาท Export Co-pilot เคียงข้าง ขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่ตลาดโลก" โดยระบุว่า ปี 2568 การส่งออกไทยกลับมาเติบโตในระดับสูงและเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยคาดว่าการส่งออกทั้งปีจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 10% อย่างไรก็ดี ภาคการส่งออกยังเผชิญความท้าทายสำคัญในเชิงโครงสร้างที่ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องความไม่สมดุลระหว่างจำนวนผู้ส่งออก SMEs ที่มีสัดส่วนสูงถึงเกือบ 80% ของผู้ส่งออกทั้งหมด แต่สร้างมูลค่าส่งออกได้เพียง 10% ของมูลค่าส่งออกรวม ขณะที่ผู้ส่งออกรายใหญ่ที่มีอยู่ราว 20% กลับครองสัดส่วนมูลค่าส่งออกกว่า 90% ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังครองสัดส่วนสินเชื่อธุรกิจในระบบเกือบ 70% มากกว่า SMEs ที่มีสัดส่วน 30% ทั้งนี้ EXIM BANK คาดการณ์ว่า การส่งออกไทยในปี 2569 จะขยายตัวที่ราว 0-2% จากแรงกดดันด้านสงครามการค้า ข้อพิพาทชายแดน ความผันผวนของค่าเงิน และฐานที่สูงจากการเร่งส่งออก (Front-loading) ในปี 2568 ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568

 
EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มุ่งมั่นที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สนับสนุนผู้ประกอบการให้ปรับตัว แข่งขันได้ และมีรากฐานที่มั่นคงในระยะยาว ผ่านการกระตุ้นการส่งออก การแก้ไขและปรับโครงสร้างหนี้ การเพิ่มสภาพคล่อง และการสนับสนุนการลงทุนเพื่ออนาคต นอกจากนี้ EXIM BANK ยังจัดทีมเฉพาะกิจเพื่อขยายบทบาทการสนับสนุนภาคธุุรกิจและการส่งออกไทย รวมถึงการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตอุทกภัยในภาคใต้ ตลอดจนเตรียมพร้อมสำหรับวิกฤตต่าง ๆ ภายใต้บทบาท Export Co-pilot ที่พร้อมยืนเคียงข้างเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยตลอดห่วงโซ่อุปทานให้เติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ด้วยเครื่องมือทางการเงินและการบริหารความเสี่ยงที่พร้อมในทุกสถานการณ์ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการเป็น Top of Mind ที่หนึ่งในใจของผู้ส่งออกไทย
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 18 ธ.ค. 2568 เวลา : 18:46:12
19-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทาง Sideway Up ในระยะนี้ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,315-4,290 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,350-4,375 เหรียญ

2. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (18 ธ.ค.68) ลบ 9.40 ดอลลาร์ นักลงทุนลดการถือทองคำ หลัง CPI ชะลอตัว

3. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (18 ธ.ค.68) บวก 65.88 จุด เงินเฟ้อต่ำ หนุนเฟดลดดอกเบี้ยมี.ค.ปีหน้า

4. พยากรณ์อากาศวันนี้ (19 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา,ภาคใต้ ฝน 30-40%

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (19 ธ.ค. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,150 บาท

6. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 ธ.ค.68) บวก 4.20 จุด ดัชนี 1,254.27 จุด

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.43 บาทต่อดอลลาร์

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.55 บาท/ดอลลาร์

9. ประกาศ กปน.: 22 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนอ่อนนุช (ซอยสุขุมวิท 77)

10. ตลาดหุ้นปิด (8 ธ.ค.68) ลบ 6.78 จุด ดัชนี 1,250.07 จุด

11. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 ธ.ค.68) ลบ 4.78 จุด ดัชนี 1,252.07 จุด

12. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงรักษาแนวโน้มหลักเป็นขาขึ้น ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,310-4,290 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,360-4,380 เหรียญ

13. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (17 ธ.ค.68) ร่วง 228.29 จุด กังวลแนวโน้มธุรกิจ AI

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 ธ.ค.68) บวก 41.60 ดอลลาร์ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย-เก็งเฟดลดดอกเบี้ยต่อ

15. พยากรณ์อากาศวันนี้ (18 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา, ภาคใต้ฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง 30-40%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 19, 2025, 1:06 pm