กองทุนรวม
บลจ.อีสท์สปริง โชว์จ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ 3 กองทุน รวม 342 ล้านบาท ดีเดย์ 22 ธ.ค. 68 นี้


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดอีสท์สปริง Asia Pacific Property Flexible (ES-APPF) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย ส่วนอีก 2 กองทุน สําหรับรอบระยะเวลาบัญชี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus Flexible (ES-PIPF) ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย และ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Flexible (ES-PROPINFRAFLEX) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย กำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 22 ธันวาคม 2568 รวมมูลค่าจ่ายปันผล 342 ล้านบาท

กองทุนเปิดอีสท์สปริง Asia Pacific Property Flexible (ES-APPF) เน้นลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสาร ที่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector) ที่จดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  โดยมีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือ ปี 2563 อยู่ที่ 0.20 บาทต่อหน่วย ปี 2564 อยู่ที่ 0.36 บาทต่อหน่วย เมื่อรวมกับการจ่ายปันผลงวดนี้ 0.30 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 0.86 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2568)

ส่วนกองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus Flexible (ES-PIPF) มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector) และ/หรือ หน่วยโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงอยู่ระหว่างการดำเนินการกระจายการถือหน่วยลงทุน หรือเปิดเสนอขายครั้งแรก โดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือปี 2563 อยู่ที่ 0.29 บาทต่อหน่วย ปี 2564 อยู่ที่ 0.4013 บาทต่อหน่วย ปี 2565 อยู่ที่ 0.10 บาทต่อหน่วย ปี 2566 อยู่ที่ 0.15 บาทต่อหน่วย ปี 2567 อยู่ที่ 0.20 บาทต่อหน่วย ปี 2568 มีการจ่ายปันผลไปแล้ว 0.35 บาทต่อหน่วย โดยรวมกับการจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.30 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 1.7913 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 18ธันวาคม 2568)

สำหรับกองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Flexible (ES-PROPINFRAFLEX) มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์/ตราสารที่จดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉลี่ยในรอบระยะเวลาบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมีการจ่ายเงินปันผลต่อหน่วยลงทุนย้อนหลัง 5 ปี คือ ปี 2563 อยู่ที่ 0.325 บาทต่อหน่วย ปี 2564 อยู่ที่ 0.225 บาทต่อหน่วย ปี 2566 อยู่ที่ 0.1772 บาทต่อหน่วย ปี 2567 มีการจ่ายปันผลอยู่ที่ 0.46 บาทต่อหน่วย ปี 2568 มีการจ่ายปันผลไปแล้ว 0.10 บาทต่อหน่วย โดยรวมกับการจ่ายปันผลงวดนี้ 0.20 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 1.4872 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2568)

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบลจ.อีสท์สปริง หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทั้งนี้ การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกก็ได้ ความเสี่ยงของกองทุนเปิดอีสท์สปริง Asia Pacific Property Flexible ,กองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus Flexible และกองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Flexible ได้แก่ ความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินจำนวนมาก และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น ซึ่งทั้ง 3 กองทุนนี้ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ธ.ค. 2568 เวลา : 13:12:17
20-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (19 ธ.ค.68) บวก 2.12 จุด ดัชนี 1,252.19 จุด

2. ประกาศ กปน.: 24 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระรามที่ 2

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 ธ.ค.68) บวก 3.58 จุด ดัชนี 1,253.65 จุด

4. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทาง Sideway Up ในระยะนี้ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,315-4,290 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,350-4,375 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (18 ธ.ค.68) ลบ 9.40 ดอลลาร์ นักลงทุนลดการถือทองคำ หลัง CPI ชะลอตัว

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (18 ธ.ค.68) บวก 65.88 จุด เงินเฟ้อต่ำ หนุนเฟดลดดอกเบี้ยมี.ค.ปีหน้า

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (19 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา,ภาคใต้ ฝน 30-40%

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (19 ธ.ค. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,150 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 ธ.ค.68) บวก 4.20 จุด ดัชนี 1,254.27 จุด

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.43 บาทต่อดอลลาร์

11. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.55 บาท/ดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: 22 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนอ่อนนุช (ซอยสุขุมวิท 77)

13. ตลาดหุ้นปิด (8 ธ.ค.68) ลบ 6.78 จุด ดัชนี 1,250.07 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 ธ.ค.68) ลบ 4.78 จุด ดัชนี 1,252.07 จุด

15. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงรักษาแนวโน้มหลักเป็นขาขึ้น ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,310-4,290 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,360-4,380 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 20, 2025, 7:43 am