แบงก์-นอนแบงก์
ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% มีผลวันที่ 23 ธันวาคม 2568


ธนาคารไทยพาณิชย์ ขานรับมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25% ต่อปี พร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.05% - 0.10% ต่อปี แต่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าบุคคลไว้ เพื่อสนับสนุนทิศทางการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ด้วยการบรรเทาภาระทางการเงินของลูกค้าบุคคลและธุรกิจ ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอลงชัดเจนและมีความเสี่ยงมากขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากใหม่มีผลตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป 
 
 
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันลูกหนี้กลุ่มเปราะบางยังมีหนี้สูง ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ ทั้งผลกระทบของมาตรการค้าของสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และแรงกดดันต่อการปรับตัวของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะช่วยบรรเทาภาระการชำระหนี้และเสริมสภาพคล่อง รวมถึงช่วยเสริมประสิทธิผลมาตรการทางการเงินของภาครัฐ ที่มุ่งลดความเปราะบางของภาคครัวเรือนและช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถปรับตัวเพื่อดำเนินธุรกิจได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้ง MLR, MOR และ MRR ลง 0.10% - 0.25% ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางนโยบายการเงินและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า โดยมีรายละเอียดดังนี้
 
• อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR : Minimum Loan Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.500% เป็น 6.400% ต่อปี 
 
• อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR : Minimum Overdraft Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.675% เป็น 6.425% ต่อปี 
 
• อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR : Minimum Retail Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.775% เป็น 6.675% ต่อปี 
 
ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารได้ปรับลดลง 0.05% - 0.10% ต่อปี โดยธนาคารไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ของลูกค้าบุคคลธรรมดาลง เพื่อช่วยเหลือผู้ฝากเงินในภาวะดอกเบี้ยต่ำ
ธนาคารยังคงพร้อมสนับสนุนลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้จะช่วยบรรเทาภาระทางการเงิน ควบคู่ไปกับความช่วยเหลืออื่นๆ ที่ธนาคารได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับลูกค้าที่ประสงค์จะขอรับคำปรึกษา สามารถติดต่อได้ที่ SCB Call Center 02-777-7777 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 19 ธ.ค. 2568 เวลา : 17:15:56
21-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (19 ธ.ค.68) บวก 2.12 จุด ดัชนี 1,252.19 จุด

2. ประกาศ กปน.: 24 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนพระรามที่ 2

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (19 ธ.ค.68) บวก 3.58 จุด ดัชนี 1,253.65 จุด

4. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทาง Sideway Up ในระยะนี้ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,315-4,290 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,350-4,375 เหรียญ

5. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (18 ธ.ค.68) ลบ 9.40 ดอลลาร์ นักลงทุนลดการถือทองคำ หลัง CPI ชะลอตัว

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (18 ธ.ค.68) บวก 65.88 จุด เงินเฟ้อต่ำ หนุนเฟดลดดอกเบี้ยมี.ค.ปีหน้า

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (19 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศา,ภาคใต้ ฝน 30-40%

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (19 ธ.ค. 68) ลดลง 50 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,150 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (19 ธ.ค.68) บวก 4.20 จุด ดัชนี 1,254.27 จุด

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (19 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.43 บาทต่อดอลลาร์

11. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.55 บาท/ดอลลาร์

12. ประกาศ กปน.: 22 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนอ่อนนุช (ซอยสุขุมวิท 77)

13. ตลาดหุ้นปิด (8 ธ.ค.68) ลบ 6.78 จุด ดัชนี 1,250.07 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 ธ.ค.68) ลบ 4.78 จุด ดัชนี 1,252.07 จุด

15. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงรักษาแนวโน้มหลักเป็นขาขึ้น ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,310-4,290 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,360-4,380 เหรียญ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 21, 2025, 2:03 am