
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานประมาณการเบื้องต้นของ GDP สหรัฐฯ ไตรมาสที่ 3 เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา ว่าอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.3 ต่อปี เติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง การส่งออกที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และการลงทุนอย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจด้านอุปกรณ์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) แม้ว่านักวิเคราะห์ยังคงกังวลต่อมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ปรับสูงขึ้น และภาคครัวเรือนที่จะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายสินค้าและสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น
(+) ตลาดยังคงมีความไม่แน่นอนจากการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันทั้งหมดที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้าและออกจากเวเนซุเอลา โดยการคว่ำบาตรครั้งนี้ส่งผลให้การขนถ่ายน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาชะลอตัวลง และสามารถขนถ่ายได้เฉพาะท่าเรือภายในประเทศเท่านั้น รวมทั้งมีแนวโน้มที่เพิ่มความเสี่ยงในการที่จะต้องปิดกำลังการผลิตบางส่วนไป โดยเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า น้ำมันดิบที่สหรัฐฯ ยึดได้นอกชายฝั่งเวเนซุเอลา อาจเก็บไว้หรือขายออกสู่ตลาด
(+) นอกจากนี้ตลาดยังคงจับตาอุปทานน้ำมันดิบจากรัสเซียที่มีความเสี่ยงมากขึ้น โดยเมื่อคืน วันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา กองกำลังรัสเซียได้ทำการโจมตีท่าเรือโอเดสซาของยูเครน บริเวณริมทะเลดำ ส่งผลให้สิ่งอำนวยความสะดวกในท่าเรือและเรือลำหนึ่งได้รับความเสียหาย ขณะที่โดรนของยูเครนได้ทำการโจมตีเรือสองลำ และ ท่าเทียบเรือสองแห่งของรัสเซีย ร่วมถึงเกิดไฟไหม้ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในภูมิภาคคราสโนดาร์ของรัสเซีย
ข่าวเด่น