สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -19.09 จุด หุ้นใหญ่โดนเทภาคบ่าย, ต่างชาติขายหนัก

  SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1672-94 โดยเฉพาะภาคบ่ายไหลลงจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ และปิดต่ำสุดของวัน ถูกปัจจัยกดดันจากภายนอก ทั้งสงครามการค้า, การอ่อนค่าของเงินในปท. EM และ Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้น ต่างชาติขายสุทธิหนัก 3.3 พันลบ. 13 วันติดต่อกัน และ Short S50 Futures สูงถึง 15,474 สัญญา

ทิศทางตลาดวันนี้ : ผันผวน แต่หากอ่อนตัวแถว 1665+/- มีลุ้นรีบาวด์
  หุ้นโลกเมื่อวาน (11 ก.ย.) ปิดผสมผสาน โดยหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อย นลท.ระมัดระวังต่อโอกาสเกิดการกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนรอบใหม่ ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแข็งแกร่ง จากการรีบาวด์ต่อเนื่องของหุ้นเทคโนโลยี นำโดยหุ้น Apple ที่เตรียมจะเปิดตัวหลายผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันพุธนี้ และหุ้นพลังงานที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันที่พุ่งมากกว่า 2% เนื่องจากพายุเฮอร์ริเคน Florence ความแรงระดับ 4 เตรียมพัดเข้าชายฝั่งทางต.อ.ของสหรัฐฯ สร้างความกังวลต่ออุปทานน้ำมันตึงตัว  มอง SET ผันผวนอิงในทิศทางแกว่งลงจากสงครามการค้ามีความไม่แน่นอนสูง ล่าสุดจีนเตรียมหารือ WTO 21 ก.ย. เพื่อขอความเห็นชอบการคว่ำบาตร-ขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ขณะที่ Bond Yield สหรัฐฯ กลับมามีแนวโน้มปรับตัวขึ้น คาดจะกดดันกระแสเงินทุนตปท.ไหลออก ด้านการขึ้น XD หุ้นขนาดใหญ่หลายตัววันนี้ (BANPU, BBL, BDMS, KBANK) จะมีผลกระทบต่อ SET –0.9 จุด อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหาก SET ลงทดสอบแนวรับ 1665+/- มีโอกาสดีดกลับทางเทคนิค ประเมินแนวต้าน 1680-85

กลยุทธ์การลงทุน : ใช้ SET 1700-1705 เป็นเกณฑ์ตัดสินใจเข้าเทรดดิ้งรอบใหม่
  แนะใช้ SET ที่ระดับ 1700-1705 เป็นเกณฑ์ตัดสินใจในการเข้าเทรดดิ้งรอบใหม่ มิฉะนั้น เรายังแนะนำถือเงินสด รอประเมินจังหวะรอบใหม่ แต่สำหรับพอร์ตลงทุน รอทยอยสะสมที่ SET บริเวณ 1660-65 และ 1650 ลงมา

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick ANAN – เตรียมเปิดตัวไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร ผ่านทางออนไลน์เพียงวันเดียว 25 ก.ย.นี้ คาดจะได้รับการตอบรับอย่างดี  ช่วยหนุนยอดขายใน Q3, แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรกโดยเฉพาะ Q4 คาดจะสูงที่สุดของปี จากการรับรู้ backlog โครงการต่างๆ และมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน JV มากขึ้น, เป้าพื้นฐาน 6.8 บ. / 5 หุ้นเด่นจากสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนประจำเดือน ก.ย. – AMATA, BBL, BDMS, KKP, PTTEP / FTSE Rebalance Asia ex Japan มีผลราคาปิด 21 ก.ย. FTSE All World - มีหุ้นไทยถูกคัดออก คือ BEC, FTSE Large Cap - มีหุ้นไทยถูกออก คือ MINT (ลดระดับเป็น Mid Cap), FTSE Mid Cap มีหุ้นเข้าคือ MINT และหุ้นถูกออก คือ BEC, FTSE Small Cap – มีหุ้นเข้า คือ MBK, BEC (ตกมาจาก Mid Cap) / หุ้นกำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก – CK, CMAN, NYT, PCSGH, PLANB, PRM, SEAFCO, STEC, WHA / หุ้นเด่นในแต่ละอุตฯ ที่น่าทยอยสะสม คือ AUTO – PCSGH / BANK – BBL, KBANK, SCB / COMM – CPALL, BJC, COM7 / CONMAT – SCC / CONS – CK, STEC, SEAFCO / FIN – AEONTS, ASAP / FOOD – MINT / ICT – INTUCH, TRUE / MEDIA – PLANB / PETRO – IVL, CMAN / PROP – ANAN, LH, QH, ROJNA / TRANS – BTS, JWD, NYT / mai – SPA / DIVIDENDs – KKP, LH, NYT, TPIPP, TVO
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ COM7 (เป้าสั้น 20.2 บ.), EA (42.5 บ.), TTCL (11.1 บ.) / ถือ STEC (23.6 บ.) / ถึงเป้าขายทำกำไร HANA (+3.9%) / ขายเปลี่ยนตัว EPG (+1.1%) / ขายตัดขาดทุน TRUE (-11.4%)
• หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) BJC, CK, COM7, HANA, IRPC, MINT, PRM, TCAP
• หุ้นเด่น 2H18 Big Cap. - KBANK , BBL , CPALL , BJC , CK , IVL , SCC , LH , PSH , QH , TRUE , INTUCH / Mid-Small Cap. - BTS , COM7 , NYT , PLANB , ROJNA , STEC , SEAFCO , SPA

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research