ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำในเช้านี้ปรับตัวลดลง หลังจากขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 2,665 เหรียญในวันศุกร์ซึ่งเป็นแนวต้านทางจิตวิทยา ก่อนจะถูกแรงเทขายกลับลงมา ทำให้ราคาทองคำเปิดตลาดในเช้านี้มีบางช่วงที่หลุดระดับ 2,640 เหรียญลงมา รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ดี ภาพรวมราคาทองคำยังคงมีความผันผวนไม่แน่นอน ในลักษณะของการปรับฐาน หากราคาทองคำยังไม่หลุดแนวรับที่ระดับ 2,610 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,660 เหรียญ โดยคาดว่าราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวขึ้นลงประมาณ 50 เหรียญในเดือนนี้ ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ ได้แก่ ISM Manufacturing PMI และ ISM Manufacturing Prices ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ โดยวันนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Final Services PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาใกล้เคียงเดิม โดยไม่น่าส่งผลกระทบต่อดัชนีดอลลาร์ ซึ่งภาพรวมดัชนีดอลลาร์ยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งค่าขึ้น โดยในวันศุกร์เปิดที่ระดับ 109.20 จุด และเคลื่อนตัวอยู่ในระหว่าง 108.90-109.22 จุด และปิดที่ระดับ 108.92 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 108.86 จุด เรียกได้ว่าดัชนีดอลลาร์ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ2 ปี ที่ระดับ 109.53 จุด ทำให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลง โดยค่าเงินบาทกลับมายืนเหนือระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง และเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.57 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองไทยปรับตัวสูงขึ้นมาที่ระดับ 43,300 บาทต่อบาททองคำในวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่เช้านี้ปรับตัวลดลงตามราคาทองคำตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดีจากสภาวะของตัวเลขเศรษฐกิจโลกโดยองค์รวมคาดว่าราคาทองคำน่าจะผันผวนในช่วง 6 เดือนแรกของปีจากนโยบาย“อเมริกาต้องมาก่อน (America First)"ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าราคาทองคำน่าจะปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ และมองว่าภาพรวมราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มทิศทางขาขึ้น ขณะที่ทางด้านเศรษฐกิจของจีนก็เตรียมระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวพิเศษในปริมาณมหาศาลในปี 2568 เพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคธุรกิจและการบริโภค สะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐบาลจีนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวและส่งสัญญาณที่จะซื้อพันธบัตรสหรัฐฯน้อยลง ขณะที่นักวิเคราะห์ยังมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่เศรษฐกิจยุโรป อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ยังอยู่ในสภาวะที่ชะลอตัวลง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 2,660 เหรียญได้อย่างมั่นคง โดยราคาทองคำน่าจะกลับสู่แนวโน้มของการปรับฐาน โดยเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 2,610-2,660 เหรียญ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 2,630 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,655 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,660 เหรียญ และแนวต้าน 2,685 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,655 เหรียญ และแนวต้าน 2,680 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 42,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 43,400 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series G25 จะมีแนวรับที่ระดับ 43,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 43,900 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำซื้อขายในกรอบระยะสั้น ตามแนวโน้มของการพักฐานในกรอบ sideways โดยรอซื้อ เมื่อมีสัญญาณกลับตัวบริเวณแนวรับ และปิดขายทำกำไรก่อนเมื่อราคารีบาวด์ปรับตัวขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลดสถานะการซื้อ หรือ Long position ในระยะสั้นต้องระมัดระวังแรงขาย เนื่องจากอยู่ในช่วงการปรับฐาน ราคาอาจจะขึ้นเพื่อลงต่อในระยะสั้น จนกว่าจะสร้างฐานราคาได้
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ แต่ไม่แนะนำให้ถือในระยะยาว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน และควรมีจุด Stop Loss
ข่าวเด่น