ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,975 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,040 เหรียญ


ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากเกิดเหตุการณ์ประท้วงขึ้น โดยชาวอเมริกันหลายพันคนทั่ว 50 รัฐ และทั่วโลก รวมตัวชุมนุมกว่า 1,200 จุด โดยจัดขึ้นภายใต้ชื่อว่า "Hands Off" ซึ่งถือเป็นการแสดงการต่อต้านทรัมป์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจาก "ทรัมป์-มัสก์" ตัดงบหน่วยงานรัฐ-ผลักดันกำแพงภาษี จนกระทบระบบสาธารณะและการค้าโลก สร้างความปั่นป่วนให้กับเศรษฐกิจทั้งในประเทศและโลก ซึ่งจะเห็นได้จากผลกระทบของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ร่วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แม้จะมีความผันผวนเล็กน้อยในเมื่อวานนี้จากข่าวลือที่อ้างว่าทรัมป์กำลังพิจารณาที่จะระงับการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ออกไปอีก 90 วัน ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่าการขึ้นภาษีของทรัมป์จะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะชะลอลง โดยนักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs และ Jp morgan คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ขณะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า สหรัฐฯ น่าจะเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในเดือนหน้า ซึ่งตัวเลข CPI ที่จะออกในเดือนนี้น่าจะยังไม่ส่งผลเท่าไรนัก อย่างไรก็ดี ประเทศขนาดเล็กโดยส่วนใหญ่ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเอเชีย รวมถึงไทย ออกมาเรียกร้องขอเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ ซึ่งมีเพียงจีนกับยุโรปพร้อมออกมาตอบโต้กับสหรัฐฯ ในส่วนของดัชนีดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ปิดที่ระดับ 102.89 จุด และวันจันทร์เปิดที่ระดับ 103.06 จุด และปิดที่ระดับ 103.46 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 102.99 จุด จะเห็นได้ว่าดัชนีดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทก็อ่อนค่าลงเช่นเดียวกัน โดยค่าเงินบาททะลุระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ขึ้นมา โดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.60 บาทต่อดอลลาร์ จากภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ยังไม่ค่อยดี และจากผลกระทบการขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ไทย 37%



วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในทางเทคนิคราคาทองคำอยู่ในช่วงของการปรับฐานทำกำไร โดยหลุดเส้นแนวรับระยะสั้น 30 วันลงมาทดสอบแนวรับระยะกลางที่ระดับ 2,965 เหรียญ ซึ่งเป็น Fibonacci retracement 38.2% โดยมีเส้นค่าเฉลี่ย 90 วันอยู่ที่ระดับ 2,953 เหรียญ โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 2,956 เหรียญ และขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 3,057 เหรียญ ก่อนจะปิดที่ระดับ 2,981 เหรียญ เรียกได้ว่า ราคาทองคำมีแรงซื้อที่แข็งแกร่งแถวบริเวณ 2,965 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ โดยถ้าคืนนี้ราคาทองคำไม่หลุดระดับดังกล่าวลงมา น่าจะคาดการณ์ได้ว่าราคาทองคำน่าจะสามารถทรงตัวอยู่ได้ และมีโอกาสกลับมาเป็นขาขึ้นในภายหลัง ซึ่งโดยภาพรวมราคาทองคำยังไม่ได้เข้าสู่ทิศทางขาลงและมีโอกาสที่จะทรงตัวบริเวณ 3,000-3,053 เหรียญ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ระดับ 3,055 เหรียญ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,975 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,040 เหรียญ ยังคงแนะนำให้บริหารความเสี่ยงของพอร์ตให้ดี กรณีที่มีการใช้ Leverage ขอให้ควบคุมความเสี่ยงให้ดี

สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,010 เหรียญ และแนวต้าน 3,075 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,985 เหรียญ และแนวต้าน 3,050 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 48,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 49,300 บาท/บาททองคำ

Gold Futures Series J25 จะมีแนวรับที่ระดับ 49,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 49,600 บาท

โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำให้ซื้อขายในกรอบระยะสั้น ระวังแรงเทขายทำกำไร ตามแนวโน้ม “Sideway down”  และหลีกเลี่ยงการใช้ leverage มากเกินไป เนื่องจากราคาอาจมีความผันผวนสูง

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 เม.ย. 2568 เวลา : 13:37:34

01-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 1, 2025, 6:25 pm