ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ (All-Time High) บริเวณ 3,500 เหรียญเมื่อวานนี้ ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไรอย่างหนัก ทำให้ราคาทองคำร่วงลงมาทำจุดต่ำสุดบริเวณ 3,366 เหรียญ และปิดตลาดที่ระดับ 3,381 เหรียญ ขณะที่เช้านี้ราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาเล็กน้อย โดยราคาทองคำเปิด GAP ที่ 3,315 เหรียญ ก่อนจะดีดขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3,386 เหรียญ โดยภาพรวมสามารถวิเคราะห์ได้ว่า การที่ราคาทองคำปรับร่วงลงมา มีสาเหตุมาจากการที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นอย่างมาก และส่งผลให้ตลาดทองคำร่วงลงมากว่า 100 เหรียญ จากระดับ 3,500 เหรียญ ซึ่งต่อมารัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า ยังไม่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนสำหรับการเจรจาระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งภาพรวมจีนยังไม่ได้ตอบรับต่อเงื่อนไขการเจรจาใดๆ ขณะที่ในหลายๆประเทศ เช่น ญี่ปุ่นก็ยังเจรจาไม่สิ้นสุด และไทยถูกเลื่อนการเจรจาออกไปจากเดิมที่มีกำหนดไว้วันที่ 23 เม.ย. ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 11.47 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 947.7 ตัน ภาพรวมเดือนเมษายน ซื้อสุทธิ 15.76 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 75.18 ตัน ซึ่งไม่ได้เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเท่าไรนัก สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Flash Manufacturing PMI และ Flash Services PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ขณะที่ New Home Sales คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม บ่งชี้ได้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ด้านค่าเงินบาทของไทย ในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลง ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว อยู่ที่ระดับ 33.09 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้นี้อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 33.50 บาทต่อดอลลาร์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำเข้าสู่ช่วงของการปรับฐานสมบูรณ์เป็นครั้งที่ 2 โดยราคาทองคำร่วงลงมากว่า 150 เหรียญ โดยราคาทองคำลงมาทดสอบ Fibonacci retracement ที่ระดับ 23.6% ที่บริเวณ 3,360 เหรียญ โดยถ้าภายใน 2 วันนี้ ราคาทองคำไม่หลุดจุดต่ำสุดที่ระดับ 3,320 เหรียญ จะเป็นการกลับตัวและปิด GAP ซึ่งอาจจะเป็น Exhaustion Gap ซึ่งบ่งบอกว่าการปรับฐานอาจจะสิ้นสุดลง ซึ่งในระยะสั้นดูเหมือนจะมีการกลับทิศทางได้ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,320 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,420 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,350 เหรียญ และแนวต้าน 3,450 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,335 เหรียญ และแนวต้าน 3,435 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 52,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 53,300 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series J25 จะมีแนวรับที่ระดับ 52,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 53,500 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบระยะสั้น ตามแนวโน้ม “Sideways” ระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ และหลีกเลี่ยงการใช้ leverage มากเกินไป เนื่องจากราคาอาจมีความผันผวน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น