ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงมีความผันผวนค่อนข้างมาก เนื่องจากได้รับข่าวเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่สวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 9-12 พ.ค. โดยเป็นการพบปะระหว่าง นายเหอ หลี่เฟิง สมาชิกกรมการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งนอกจากพบปะหารือกับบรรดาผู้นำสวิสและฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว นายเหอ หลี่เฟิง จะประชุมด้านเศรษฐกิจและการค้าร่วมกับสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ โดยข่าวดังกล่าวได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนทั่วไปเนื่องจากคาดว่าการเจรจาอาจไม่ประสบผลดีนัก เพราะจีนไม่ได้ส่งบุคคลสำคัญเข้าร่วมการประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าข่าวในตอนแรกทำให้ราคาทองคำร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 3,360 เหรียญ และดีดกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 3,376 เหรียญ ขณะที่เช้านี้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 3,402 เหรียญ คล้ายกับว่าตลาดรับรู้แล้วว่าการเจรจาอาจไม่ประสบความสำเร็จ โดยมีเป้าหมายแรกในระยะสั้นแถวบริเวณ 3,435 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมเมื่อ 2 วันก่อน นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าจีนเพิ่มทุนสำรองทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนเมษายน ตอกย้ำความพยายามในการเพิ่มการถือครองทองคำ และนักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ข่าวการคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด รวมถึงถ้อยแถลงของเฟดก็ไม่ได้สร้างความน่าสนใจใดๆ ราคาทองคำในตลาด COMEX ไม่ได้เคลื่อนไหวรุนแรงมากนัก โดยเป็นการตอบสนองต่อข่าวสงครามการค้ามากกว่า ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจโลกเริ่มชะลอตัวลง และอุปสงค์น้ำมันลดลง ในขณะที่อุปทานเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันดิบร่วงหลุด 60 เหรียญต่อบาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.73% ปิดที่ 58.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.66% ปิดที่ 61.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 99.50 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 99.28-99.97 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 99.68 จุด ขณะที่ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 32.56 บาทต่อดอลลาร์ และปิดที่ระดับ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.67 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาทองไทยปรับตัวสูงขึ้นได้มากในเช้านี้ เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นจากเมื่อวานประมาณ 20 สตางค์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในระยะสั้นทองคำยังคงมีความผันผวนไม่แน่นอนหลังจากที่เคลื่อนตัวในกรอบ Sideways มา 1 วัน ระหว่าง 3,365-3,400 เหรียญ โดยเช้านี้ Break ขึ้นมาแล้วมีโอกาสที่จะทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 3,435 เหรียญ และมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 3,450 เหรียญ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,380 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,425 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,410 เหรียญ และแนวต้าน 3,455 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,395 เหรียญ และแนวต้าน 3,440 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 52,100 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 53,000 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M25 จะมีแนวรับที่ระดับ 52,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 53,500 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้รอจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัว ตามกรอบแนวโน้ม “Sideway Up” และแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาขึ้นไปใกล้แนวต้าน ควรระมัดระวังแรงขายทำกำไร และหลีกเลี่ยงการใช้ Leverage มากเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น