ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลง หลังจากมีความชัดเจนของการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีน สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้พบปะเจรจาการค้ากับเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้อัตราภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีน ลดลงสู่ระดับ 30% จากเดิมที่ระดับ 145% และอัตราภาษีของจีนที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 125% สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น และกลับมาซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ได้แก่ ดัชนีดาวโจนส์, S&P และ Nasdaq ที่ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อต้อนรับข่าวดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่าความไม่แน่นอนของสงครามการค้าและเศรษฐกิจยังคงมีค่อนข้างมากจากนโยบายของปธน.ทรัมป์ โดยราคาทองคำในวันจันทร์ปรับตัวลดลงกว่า 80 เหรียญ โดยเปิด GAP ลงมา ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ดึงให้ราคาทองคำต้องปรับตัวลดลงมาก่อน โดยในวันศุกร์ราคาทองคำปิดที่ระดับ 3,325 เหรียญ ขณะที่วันนี้เปิดที่ระดับ 3,237 เหรียญ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าภาพรวมราคาทองคำในระยะสั้นเริ่มกลับเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาลง โดยเมื่อคืนนี้ราคาทองคำตลาด COMEX รับรู้ข่าวไปเรียบร้อยแล้ว ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาก่อนหน้านี้ และมาปิดที่ 3,228 เหรียญ เช้านี้เปิดทรงตัวบริเวณเดิม และมีแรงเทขายกลับเข้ามา ทำให้ราคาโดยรวมเริ่มปรับตัวลดลงอีก โดยราคาทองคำน่าจะมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 3,200 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าถ้าตลาดรับรู้ข่าวไปหมดแล้วภายใน 2 วัน หลังจากนี้จะเห็น After Effect ที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการหยุดตกของราคาทองคำ ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ซื้อเข้า 1.15 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 939.09 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ขายสุทธิ 5.17 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 66.57 ตัน แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังมีความมั่นใจในราคาทองคำ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯในวันนี้ ได้แก่ Core CPI m/m และ CPI m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ขณะที่ CPI y/y คาดการณ์ว่าจะออกมาใกล้เคียงเดิม ด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 100.68 จุด และทำจุดสูงสุดที่ระดับ 101.97 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 101.54 จุด เรียกได้ว่าดัชนีดอลลาร์กลับมาฟื้นตัวแข็งค่าขึ้นอีกครั้งจากข่าวดังกล่าว หลังจากก่อนหน้านี้ลงไปต่ำสุดที่บริเวณ 97.92 จุด โดยดัชนีดอลลาร์จะมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 103.1 จุด
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในระยะสั้นกลับเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาลง โดยน่าจะมีแนวรับสำคัญแถวบริเวณ 3,200 เหรียญ โดยถ้าหลุดลงมาจะมีแนวรับถัดไปที่แข็งแกร่งแถวบริเวณ 3,170 เหรียญ ซึ่งคาดว่าราคาทองคำไม่น่าจะหลุดระดับ 3,170 เหรียญ เนื่องจากราคาทองคำขณะนี้เริ่มรับรู้ข่าวไปหมด แล้ว สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 3,200 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,245 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,230 เหรียญ และแนวต้าน 3,275 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,215 เหรียญ และแนวต้าน 3,260 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 50,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,500 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series M25 จะมีแนวรับที่ระดับ 51,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 51,900 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบระยะสั้น ตามแนวโน้ม “Sideway down” ระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ และหลีกเลี่ยงการใช้ leverage มากเกินไป เนื่องจากราคาอาจมีความผันผวน
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น