ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับร่วงลงจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 3,438 เหรียญ โดยแรงเทขายทำกำไรส่วนใหญ่มาจากการที่ตลาดเปลี่ยนเป็น Risk-on หรือกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ทำให้ราคาทองคำเมื่อคืนปิดตลาดที่ระดับ 3,388 เหรียญ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องอย่างช้าๆ โดยเมื่อวานนี้ดัชนีดอลลาร์เปิดที่ระดับ 97.47 จุด และเช้านี้เปิดที่ระดับ 97.16 จุด จะเห็นได้ว่าแม้ดัชนีดอลลาร์จะอ่อนค่าลงมา แต่ราคาทองคำก็ไม่ได้ดีดตัวขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่องจากเมื่อวานเปิดที่ระดับ 32.20 บาทต่อดอลลาร์ และลงมาทำต่ำสุดที่ระดับ 32.14 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ค่าเงินบาทดูเหมือนจะทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 1 เดือน และมีโอกาสหลุด 32 บาทต่อดอลลาร์ลงมาได้อีก โดยคาดว่ากรอบในวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 32.00-32.30 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 954.8 ตัน ขณะที่ภาพรวมของธนาคารทั่วโลกยังคงเข้าซื้อทองคำเข้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่ากระบวนการลดการพึ่งพาดอลลาร์ (De-dollarization) ยังคงดำเนินต่อไป สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Existing Home Sales ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Unemployment Claims, Flash Services PMI และ New Home Sales คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ขณะที่ Flash Manufacturing PMI คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ในส่วนของดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับข่าวที่ว่าสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า รวมทั้งการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นแล้ว
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มทิศทางขาขึ้นอย่างช้าๆ โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,375 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,410 เหรียญ ยังคงแนะนำให้ซื้อสะสมเมื่อราคาทองคำต่ำกว่าระดับ 3,380 เหรียญลงมา
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,410 เหรียญ และแนวต้าน 3,445 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,380 เหรียญ และแนวต้าน 3,415 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 51,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,600 บาท/บาททองคำ ภาพรวมราคาทองไทยยังคงถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ราคาทองไทยปรับร่วงลงมาประมาณ 1% จากเมื่อวานนี้
Gold Futures Series Q25 จะมีแนวรับที่ระดับ 51,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 52,200 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบ ตามแนวโน้ม “Sideway Up” รอย่อซื้อมาราคาย่อตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา
-นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น