ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบ Sideway Down โดยหลุดระดับ 3,300 เหรียญลงมาในช่วงตลาด Comex โดยภาพรวมราคาทองคำยังไม่สามารถรักษาฐานยืนเหนือ 3,300 เหรียญได้ ทำให้ในระยะสั้นราคาทองคำยังคงวิ่งอยู่ในกรอบขาลง ท่ามกลางนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสนใจกับข่าวข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้า โดยสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากไทย 19% เท่ากับกัมพูชาและมาเลเซีย ขณะที่อัตราภาษีประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน เวียดนาม 20 % อินโดนีเซีย19% ฟิลิปปินส์ 19 % กัมพูชา 19 % มาเลเซีย 19 % เมียนมา 40% ลาว 40% บรูไน 25% สิงคโปร์ 10% อินโดนีเซีย 19% ซึ่งจะเห็นได้ว่าสหรัฐฯได้ประโยชน์จากหลายๆ ประเทศ ซึ่งถือเป็นชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากได้กำแพงภาษีที่สูงและภาษีนำเข้าในระดับที่ได้เปรียบ นอกจากนี้ สินค้าส่งออกของสหรัฐฯ ไปยังประเทศต่างๆ ในโซนเอเชียก็ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็น 0% เช่น ไทยและเวียดนาม ซึ่งถือว่าโซนเอเชียเป็นเป้าหมายรองจากจีนและอินเดีย ขณะที่ดีลการค้าของอินเดียยังไม่จบ แม้ว่าสหรัฐฯ จะประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียในอัตรา 25% แต่น่าจะมีการปรับลดในภายหลัง ส่วนเม็กซิโกเลื่อนการเจราจาออกไปอีก 90 วัน ในส่วนของค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 32.58 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.79 บาทต่อดอลลาร์ สวนทางกับดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อวานเปิดที่ระดับ 99.79 จุด และเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 99.52-100.10 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 100.01 จุด ภาพรวมดัชนีดอลลาร์ปรับตัวทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 100 จุดขึ้นมาได้ และยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันได้ที่ระดับ 99.90 จุด ซึ่งถือเป็นผลดีต่อตลาดสหรัฐฯ ขณะที่ภาพรวมดัชนีสหรัฐฯ ดัชนีหลักอย่างดาวโจนส์, S&P และ Nasdaq มีการแกว่งตัวในกรอบแคบและปิดลบเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนรับรู้ข่าวดีลการค้าไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่หุ้นกลุ่ม "7 นางฟ้า" โดยเฉพาะหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ทะยานขึ้น 11.25% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Core PCE Price Index m/m ออกมาใกล้เคียงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Unemployment Claims ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ นอกจากนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งเพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ทองแดงบางรายการ เช่น ท่อทองแดง สายไฟ แท่งทองแดง สายเคเบิล ขั้วต่อ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ในอัตรา 50% โดยจะเริ่มตั้งแต่ 1 ส.ค. ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องการผลิตของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองแดงในทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคราคาทองคำหลุดระดับ 3,300 เหรียญลงมา ทำให้ภาพรวมระยะสั้นกลายเป็นขาลงและมีการเคลื่อนตัวแบบ Sideways Down โดยมีแนวรับที่ระดับ 3,250 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 3,300 เหรียญ ยังคงแนะนำนำให้นักลงทุนสามารถรอซื้อได้ในบริเวณแนวรับ แต่ต้องระมัดระวังหากราคาทองคำหลุดต่ำกว่า 3,250 เหรียญ อาจทำให้ภาพรวมในระยะกลางเปลี่ยนเป็นขาลงได้ เนื่องจากรับข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับเรื่องสงครามการค้า
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,285 เหรียญ และแนวต้าน 3,335 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,255 เหรียญ และแนวต้าน 3,305 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 50,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,300 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q25 จะมีแนวรับที่ระดับ 51,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 51,700 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำซื้อขายในกรอบ "Sideway Down" และพิจารณาการลดสถานะการซื้อลง รอให้เกิดสัญญาณกลับตัวตามกรอบแนวรับ เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่ราคาอาจปรับตัวลงต่อ พร้อมบริหารความเสี่ยง
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
แนะนำแบ่งปิดทำกำไรตามรอบการรีบาวด์ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นเพื่อลงต่อในช่วงระยะสั้นนี้
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้น โดยยังคงแนะนำหาจังหวะขายตามกรอบแนวต้าน โดยในระยะสั้นมีโอกาสขึ้นเพื่อลงต่อ
ข่าวเด่น