ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกินคาดในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls) ที่ออกมาที่ 73K ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 106K แต่สูงกว่าครั้งก่อนที่ 14K อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ตลาดประหลาดใจ คือ การปรับลดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรย้อนหลัง 2 เดือน ลงถึง 258,000 ตำแหน่ง เป็นสาเหตุให้โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งปลด กรรมาธิการด้านสถิติแรงงาน โดยกล่าวหาว่า "เจตนาปลอมแปลง" ข้อมูลด้านเศรษฐกิจให้ออกมา "ย่ำแย่" ปัจจัยดังกล่าวเป็นแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นกว่า 2% ในวันศุกร์ จากระดับเดิมที่เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 3,281 เหรียญ และพุ่งทะลุ 3,363 เหรียญ และปิดที่ระดับ 3,363 เหรียญ ขณะเดียวกัน ความตื่นตระหนกดังกล่าวทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แก่ ดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ซึ่งปรับตัวลดลงประมาณ 1-2% ตลาดเริ่มกลับมากังวลกับภาวะการจ้างงานที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการจ้างงานที่อ่อนตัวลงต่อเนื่องมาประมาณ 4 เดือน สะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และอาจนำไปสู่การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เร็วขึ้น ซึ่งจากเดิมที่หลายฝ่ายคิดว่าอาจจะไม่มีการลดดอกเบี้ย แต่หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าวออกมา นักวิเคราะห์มองว่ามีโอกาสสูงขึ้นถึง 86% ที่จะมีการลดดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งหมายความว่าปัจจัยบวกต่อทองคำน่าจะมีมากขึ้น ทำให้ราคาทองคำดีดตัวรับข่าวนี้อย่างรวดเร็ว ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.43 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 953.08 ตัน ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงจากวันศุกร์เปิดที่ระดับ 100.01 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 98.61-100.25 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 98.71 จุด เรียกได้ว่าดัชนีดอลลาร์ร่วงลงอย่างรวดเร็วจากข่าวนี้ ซึ่งค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นจากวันศุกร์เปิดที่ระดับ 32.71 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.46 บาทต่ออลลาร์ ขณะที่ภาพรวมของสงครามการค้า ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงใช้มาตรการกำแพงภาษีมาขู่ทั้งกลุ่ม BRICS และคู่ค้าของกลุ่ม BRICS ซึ่งต้องรอดูผลกระทบต่อไป
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวมราคาทองคำกลับมาสู่ฐานเดิม หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 3,281 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับมาสู่ฐานเดิมในกรอบกว้างระหว่าง 3,300-3,360 เหรียญอีกครั้ง สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,330 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,370 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,365 เหรียญ และแนวต้าน 3,405 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,335 เหรียญ และแนวต้าน 3,375 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 51,200 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,800 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q25 จะมีแนวรับที่ระดับ 51,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 52,100 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบ ตามแนวโน้ม “Sideways” รอย่อซื้อมาราคาย่อตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา
-นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น