
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีบางช่วงขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 3,400 เหรียญ และปิดตลาดที่ 3,396 เหรียญ ขณะที่เช้านี้ราคาทองคำอยู่ที่ระดับ 3,387 เหรียญ อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีสาเหตุหลักมาจากประเด็นความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยแหล่งข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า สหรัฐฯ ได้ประกาศมาตรการเก็บภาษีนำเข้าทองคำแท่งขนาด 1 กิโลกรัมและ 100 ออนซ์ โดยสินค้าดังกล่าวจะถูกจัดประเภทใหม่ภายใต้รหัสศุลกากรที่มีการกำหนดภาษี โดยการตัดสินใจของสหรัฐฯ ในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตและกลั่นทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกผันผวนและสร้างความไม่แน่นอนให้กับนักลงทุนได้อีกด้วย ซึ่งเป็นลักษณะคำขู่ระหว่างทั้งสองประเทศและยังไม่มีความชัดเจนของข่าว อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวทำให้ราคาทองคำในตลาด COMEX Futures ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้จนไปอยู่ที่ระดับ 3,483 เหรียญ สำหรับกองทุน SPDR น่าจะได้รับผลกระทบจากข่าวนี้เช่นเดียวกัน ทำให้เมื่อวานกองทุนทองคำ SPDR ซื้อเข้า 6.3 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 959.09 ตัน ในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัวอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงเดิม ส่วนดัชนี Nasdaq ได้รับแรงหนุนจากหุ้นแอปเปิ้ล (Apple) ที่พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากปธน.ทรัมป์ประกาศว่าจะยกเว้นภาษีนำเข้าชิปและเซมิคอนดักเตอร์ในอัตรา 100% ให้กับบริษัทที่มีการผลิตหรือมีแผนที่จะผลิตในสหรัฐฯ โดยแอปเปิ้ลได้ประกาศการลงทุนครั้งใหม่วงเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้การลงทุนรวมของแอปเปิ้ลในสหรัฐฯ ตลอด 4 ปีข้างหน้าเพิ่มเป็น 6 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ปธน.ทรัมป์ยังคงมองหาผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยมีรายงานว่าคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าเฟด ได้กลายเป็นผู้ที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานเฟดคนใหม่ ขณะที่เมื่อวานนี้ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 4% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยนับเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 5 ในรอบ 12 เดือน จากเดิม 4.25% ซึ่งนำไปสู่การคาดหวังว่า Fed อาจจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ในส่วนของราคาน้ำมันสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.73% ปิดที่ 63.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจากนี้มีข่าวว่า ปธน.ทรัมป์อาจจะมีการพบปะกับปูตินในสัปดาห์หน้า เพื่อพยายามยุติสงคราม สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ ได้แก่ Unemployment Claims ออกมาเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ ขณะที่วันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบ Sideway up อย่างช้าๆ โดยมีแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 3,360 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 3,400 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,390 เหรียญ และแนวต้าน 3,430 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,470 เหรียญ และแนวต้าน 3,510 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 51,400 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 52,000 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q25 จะมีแนวรับที่ระดับ 51,950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 52,600 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบ ตามแนวโน้ม “Sideway Up” รอย่อซื้อมาราคาย่อตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา
-นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น