ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำมีความผันผวนอีกครั้ง หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Core PPI m/m และ PPI m/m ออกมาสูงขึ้นกว่าที่คาดการณ์ โดยราคาทองคำเมื่อวานขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 3,375 เหรียญ แต่เมื่อตัวเลข PPI ออกมาสูงกว่าที่คาด ทำให้ตลาดเกิดความกังวลและตื่นตระหนกว่าแนวคิดที่จะลดดอกเบี้ยลง 0.50% ในเดือนก.ย.น่าจะหายไป แต่โดยส่วนใหญ่ยังคงคาดว่าน่าจะมีการลดดอกเบี้ยลง 0.25% แทน ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัท CFRA Research กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงานและดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดเป็นปัจจัยหนุนความคาดหวังที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า แต่ดัชนี PPI ล่าสุดที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อาจจะเริ่มส่งผลกระทบต่อตัวเลขเงินเฟ้อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วถึง 20 เหรียญ ทั้งในตลาด Gold Comex และ Spot ตามตัวเลข PPI ที่ออกมา โดยเช้าวันนี้ราคากลับมายืนอยู่ที่ระดับ 3,340 เหรียญ ซึ่งเป็นการแกว่งตัวในกรอบเดิมที่คาดการณ์ไว้ระหว่าง 3,330-3,390 เหรียญ ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 2.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 961.35 ตัน ด้านดัชนีดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 97.75 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 97.63-98.32 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 98.07 จุด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ระยะ 10 ปี ยังคงแกว่งตัวและปรับขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 4.273% ขณะที่ดัชนีหลักของสหรัฐฯ ได้แก่ ดาวโจนส์ S&P500 และ Nasdaq ทรงตัวและไม่ได้ปรับลดลงมากนัก โดยลดลงเพียง 0.03% แสดงให้เห็นว่าตลาดไม่ได้ตื่นตระหนกเท่าที่ควร ในส่วนของราคาน้ำมันยังคงแกว่งตัวอยู่ในช่วง 63-65 เหรียญต่อบาร์เรล โดยเมื่อวานนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.09% ปิดที่ 63.96 เหรียญต่อบาร์เรล ด้านค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์ในเช้านี้ หลังจากที่ค่าเงินบาทดูจะเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways ระยะสั้นระหว่าง 32.20-32.50 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ราคาทองไทยถูกกดดันและคาดว่าจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 51,200 บาทต่อบาททองคำ สำหรับวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Core Retail Sales m/m และ Empire State Manufacturing Index คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจากเดิม ขณะที่ Retail Sales m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาใกล้เคียงเดิม และ Prelim UoM Consumer Sentiment คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยมีแนวรับหลักอยู่ที่ระดับ 3,325 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 3,350 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,350 เหรียญ และแนวต้าน 3,375 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,375 เหรียญ และแนวต้าน 3,400 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 50,900 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,500 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q25 จะมีแนวรับที่ระดับ 51,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 52,000 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ระยะสั้นแนะนำให้ซื้อขายในกรอบ ตามแนวโน้ม “Sideways” ปรับฐาน รอซื้อเมื่อราคาย่อตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา แต่ในภาพรยะยยาวทองคำยังถือว่าอยู่ในกรอบทิศทางขาขึ้น
-นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น