
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำอยู่ในช่วงของการปรับฐานทรงตัว ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯในวันศุกร์ ได้แก่ Core Retail Sales m/m ออกมาตามที่คาดการณ์ ขณะที่ Retail Sales m/m และ Prelim UoM Consumer Sentiment ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ ขณะที่ Empire State Manufacturing Index ออกมาสูงขึ้นจากที่คาดการณ์ ซึ่งบ่งชี้ได้ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะในภาคค้าปลีก ทำให้ราคาทองคำหลุดจากระดับ 3,400 เหรียญลงมาอยู่ระหว่าง 3,330 - 3,350 เหรียญ เรียกได้ว่าราคาทองคำกลับมาสร้างฐานใหม่ที่สูงขึ้นเล็กน้อยจากฐานเดิมที่ระดับ 3,300 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิม ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเมื่อวันศุกร์เปิดที่ระดับ 98.18 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 97.86 จุด ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันศุกร์ซื้อเข้า 4.01 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 965.36 ตัน อย่างไรก็ดี ภาพรวมนักลงทุนประเมินโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. ที่ 89.1% ขณะที่ทางด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ หลังจากทำสถิติสูงสุดระหว่างวัน โดยได้แรงหนุนจากการที่หุ้น UnitedHealth พุ่งขึ้น หลังบริษัท Berkshire Hathaway เพิ่มการถือครอง ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ลดลง เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผสมผสานกันทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 4.308% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.02 % มาอยู่ที่ระดับ 3.752% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี มากกว่า 2 ปี เท่ากับ 0.56% ขณะที่การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มีความคืบหน้าที่ดี แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน โดยผู้นำเซเลนสกีของยูเครนประกาศว่า จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในวันนี้ เพื่อพบกับทรัมป์และหารือเรื่องการยุติการรุกรานของรัสเซีย ขณะเดียวกันก็จะร่วมกับพันธมิตรยุโรปผลักดันให้เกิดการประชุมสามฝ่ายร่วมกับปูติน ด้านค่าเงินบาทไทยฟอร์มตัวที่ระดับ 32.41 บาทต่อดอลลาร์ในเช้าวันนี้ โดยกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทน่าจะอยู่ระหว่าง 32.25-32.50 บาทต่อดอลลาร์ ในส่วนของราคาทองไทยได้สร้างฐานใหม่ที่ระดับ 51,200-51,400 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งเป็นการยกฐานล่างขึ้นจากระดับ 50,700 บาทต่อบาททองคำ และยังคงแนะนำให้เข้าซื้อเพื่อการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวและสะสมพลังในกรอบ Sideways โดยมีแนวรับหลักอยู่ที่ระดับ 3,330 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 3,360 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,350 เหรียญ และแนวต้าน 3,380 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,375 เหรียญ และแนวต้าน 3,405 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 51,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,600 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series Q25 จะมีแนวรับที่ระดับ 51,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 51,800 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ระยะสั้นแนะนำให้ซื้อขายในกรอบ ตามแนวโน้ม “Sideways” ปรับฐาน รอซื้อเมื่อราคาย่อตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา แต่ในภาพรยะยยาวทองคำยังถือว่าอยู่ในกรอบทิศทางขาขึ้น
-นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น