(225)(266).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (25 ส.ค.68) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 45,282.47 จุด ลดลง 349.27 จุด หรือ -0.77%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,439.32 จุด ลดลง 27.59 จุด หรือ -0.43%, และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,449.29 จุด ลดลง 47.24 จุด หรือ -0.22%
นักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ (22 ส.ค.) ภายหลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณในการประชุมที่เมืองแจ็กสันโฮลว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยระบุถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงาน
ขณะนี้นักลงทุนหันไปจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ รวมถึงดัชนี PCE ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์หน้า โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการแสดงความเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งรวมถึงจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก และลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัส เพื่อประเมินว่าเจ้าหน้าที่เฟดทั้งสองมีมุมมองด้านนโยบายการเงินที่สอดคล้องกับพาวเวลหรือไม่
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
นักลงทุนยังรอดูผลประกอบการของบริษัทผลิตชิป AI รายใหญ่อย่างอินวิเดีย (Nvidia) ในสัปดาห์นี้ด้วย
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคร่วงลง 1.62% ตามด้วยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง 1.44% ส่วนหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารดีดตัวขึ้น 0.44% และหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.26%
ข่าวเด่น