(211).jpg)
ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 ก.ย.68) ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะแถลงมติการประชุม โดย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ 3,717.8 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ หลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขาย คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติ 11 ต่อ 1 เสียง อนุมัติการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธ โดยสตีเฟน มิแรน ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด โหวตสวนมติในที่ประชุม FOMC โดยเขาลงมติให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้
สำหรับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ก่อนสิ้นปีนี้
ส่วนการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้น เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 1.6% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.4% นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อตามดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ในปี 2568, 2569 และ 2570 จะอยู่ที่ระดับ 3.1%, 2.6% และ 2.1% ตามลำดับ จากเดิมคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.1%, 2.4% และ 2.1% ตามลำดับ
ธนาคารดอยซ์แบงก์ ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2569 สู่ระดับ 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ จากเดิมที่ 3,700 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำของธนาคารกลาง การอ่อนค่าของดอลลาร์ และวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ ดอยซ์แบงก์ระบุว่า ความต้องการทองคำของประเทศต่าง ๆ ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยในปี 2554–2564 ถึงสองเท่า โดยมีจีน เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก อย่างไรก็ดี ดอยซ์แบงก์เตือนถึงความเสี่ยงต่อราคาทองคำ เช่น การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น วัฏจักรการปรับตัวลงของราคาทองคำที่มักเกิดขึ้นในไตรมาส 4 เมื่อพิจารณาสถิติย้อนหลัง 10 และ 20 ปี รวมถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจทำให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยในปี 2569
ข่าวเด่น