.jpg)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคง ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้ ทะลุแนวต้านสำคัญ ทั้งระดับ 3,900 เหรียญ และทองไทยทะลุระดับ 60,000 บาท ขึ้นมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง แม้ว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย (จาก 97.8 จุด เป็น 98.2 จุด) แต่ราคาทองคำก็ยังสามารถ พุ่งสวนทาง กับดอลลาร์ได้ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าทองคำกำลังอยู่ในภาวะ Super Bullish การปรับขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ตอกย้ำถึง ความเสี่ยงในระยะสั้น จากความผันผวนสูง นักลงทุนจึงควร แบ่งพอร์ตการลงทุนในระยะยาว เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนดังกล่าว เนื่องจากตลาดทองคำกำลังเปลี่ยนจากภาวะเก็งกำไรไปสู่ภาวะ "Gold Rush" หรือเก็งกำไรมากยิ่งขึ้น ขณะที่ กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 1.72 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,013.16 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 0.28 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 140.64 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Super bullish ) โมเมนตัมแข็งแกร่ง แต่ระยะสั้นต้องระวังความผันผวน แนะนำปรับพอร์ตการลงทุน แบ่งขายทำกำไร และรอย่อซื้อเมื่อราคาปรับตัวลง กรอบระยะสั้นวันนี้ แนวรับ 3,900–3,930 เหรียญ แนวต้าน 3,975–4,000 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,970 เหรียญ และแนวต้าน 4,015 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,950 เหรียญ และแนวต้าน 3,995 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 60,500 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 61,200 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series V25 จะมีแนวรับที่ระดับ 61,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 61,500 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แบ่งปิดสถานะซื้อ เพื่อทำกำไรบางส่วน ยังเน้นเทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น และปิดทำกำไรตามรอบ เน้นเทรดระยะสั้นลง ระวังเเรงเทขายทำกำไร
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น