ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในคืนวันศุกร์ หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 4,380 เหรียญ และมีแรงเทขายกลับลงมาจนลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 4,185 เหรียญ โดยสาเหตุสำคัญของการปรับตัวลดลงครั้งนี้ของราคาทองคำมาจากการที่ทรัมป์ออกมาให้ข่าวในเชิงลดความร้อนแรงในสงครามการค้าลง และมีการนัดเจรจาระหว่างนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐ กับนายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีของจีนในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเรื่องการค้า และพยายามที่จะเจรจากับจีนในเรื่องของการจำกัดการส่งออกแร่หายาก ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำค่อนข้างมีความผันผวนมากในสัปดาห์นี้ ขณะที่ในวันศุกร์ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนัก ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันศุกร์ซื้อเข้า 12.59 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,047.21 ตันภาพรวมเดือนตุลาคม ซื้อสุทธิ 35.48 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 173.83 ตัน ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,190.61 จุด เพิ่มขึ้น 238.37 จุด หรือ +0.52% ด้านค่าเงินดอลลาร์วันศุกร์เปิดที่ระดับ 98.25 จุด และเคลื่อนตัวระหว่าง 98.03-98.55 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 98.45 จุด เรียกได้ว่าดัชนีดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าลงอยู่ที่ระดับ 32.74 บาทต่อดอลลาร์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวรุนแรงในคืนวันศุกร์ โดยลดลงจากจุดสูงสุดที่ระดับ 4,380 เหรียญ ลงมาที่ระดับ 4,185 เหรียญ โดยลงมาประมาณ 195 เหรียญ ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาปิดที่ 4,253 เหรียญ และเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 4,267 เหรียญ อย่างไรก็ดี ในเชิงเทคนิคราคาทองคำกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลหลังจากที่ขึ้นไปมาก และทำ Overbought หรือซื้อมากเกินไป ดังนั้นการที่ราคากลับร่วงลงมาจึงเป็นภาพรวมที่ดีขึ้นในเชิง Indicator ในระยะสั้น แต่ใน Indicator รายวันยังเป็น Overbought แต่ลดความร้อนแรงลงไปได้บ้าง ราคาลงมาปรับฐานแถวบริเวณ 4,260 เหรียญในเช้านี้ ถือว่ามีเทคนิคอลรีบาวด์ขึ้นมาได้แข็งแกร่ง ขณะที่ภาพรวมราคาทองคำปรับลงมาทดสอบ Fibonacci retracement ในระยะสั้นที่ระดับ 38.2% ขณะที่ราคา ณ ปัจจุบันดีดกลับมาที่ระดับ Fibonacci retracement 23.6% ดังนั้นในเชิงเทคนิคหากภายใน 2 วันนี้ ราคาทองคำไม่หลุดจุดต่ำสุดเดิมลงมาจะถือว่าเป็นการสิ้นสุดการปรับฐานได้ อย่างไรก็ตาม ต้องรอความชัดเจนของการเจรจาระหว่างนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐ กับนายเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีของจีนในสัปดาห์นี้เพื่อหารือเรื่องการค้า ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาปรับลงมาได้เช่นเดียวกันถ้าบรรลุข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ดังนั้นในระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับที่ระดับ 4,230 เหรียญ และแนวรับระยะกลางที่ระดับ 4,190 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิม และมีแนวต้านระยะสั้นที่ระดับ 4,280 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 4,270 เหรียญ และแนวต้าน 4,320 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 4,240 เหรียญ และแนวต้าน 4,290 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 65,600 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 66,200 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series V25 จะมีแนวรับที่ระดับ 66,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 66,800 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ระยะสั้นแนะนำให้ซื้อขายในกรอบ ตามแนวโน้ม “Sideways” ปรับฐาน รอซื้อเมื่อราคาย่อตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา แต่ในภาพระยะยาวทองคำยังถือว่าอยู่ในกรอบทิศทางขาขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
ข่าวเด่น