(225)(304).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (30 ต.ค.68) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,522.12 จุด ลดลง 109.88 จุด หรือ -0.23%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,822.34 จุด ลดลง 68.25 จุด หรือ -0.99% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,581.14 จุด ลดลง 377.33 จุด หรือ -1.57% โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้น Meta และ Microsoft ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) นอกจากนี้ การแสดงความเห็นของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนธ.ค.
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 2.56% ตามด้วยหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารร่วงลง 2.14% ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และหุ้นกลุ่มการเงิน ปรับตัวขึ้น 0.65% และ 0.32% ตามลำดับ
หุ้น Meta ดิ่งลง 11.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 3 ปี หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์การใช้จ่ายด้านทุนในปีงบการเงิน 2568 สู่ระดับ 7.0 – 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 6.6 – 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ อันเนื่องมาจากการลงทุนใน AI
หุ้น Microsoft ปรับตัวลง 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุนมูลค่าเกือบ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2569 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเตือนว่าการใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นตลอดปีงบการเงินดังกล่าว
ส่วนหุ้น Alphabet ดีดตัวขึ้น 2.5% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขานรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโฆษณาและคลาวด์คอมพิวติง
นักวิเคราะห์จากบริษัท 248 Ventures กล่าวว่า นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ โดยทั้ง Microsoft, Meta และ Alphabet ต่างก็ไม่สามารถให้ความชัดเจนว่าบริษัทจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนใน AI เมื่อใด นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อในตลาดยังถูกกดดันจากการขาดแคลนข้อมูลสำคัญเนื่องจากหน่วยงานของรัฐบาลยังคงถูกชัตดาวน์ รวมทั้งการแสดงความเห็นครั้งล่าสุดของพาวเวล
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธตามคาด แต่ เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมนั้นยังไม่ใช่สิ่งที่รับประกันว่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากเฟดได้รับผลกระทบจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งทำให้รายงานเศรษฐกิจบางส่วนหยุดชะงักลง และเจ้าหน้าที่เฟดทั้ง 19 รายในคณะกรรมการ FOMC ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับแนวทางที่จะดำเนินต่อไปในการประชุมเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ หลังการแถลงข่าวของพาวเวล นักลงทุนให้น้ำหนัก 70% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงจากที่ให้น้ำหนักกว่า 90% เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตลาดแทบไม่มีปฏิกิริยาต่อข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เนื่องจากข้อตกลงเหล่านี้เป็นสิ่งที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้วในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยทรัมป์กล่าวว่าเขาจะลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนลงเหลือ 47% จากเดิม 57% เพื่อแลกกับการที่จีนจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐฯ รวมทั้งเดินหน้าการส่งออกแร่หายาก และกวาดล้างการค้าเฟนทานิลที่ผิดกฎหมาย
หุ้น Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป AI รายใหญ่ของสหรัฐฯ ปรับตัวลง 2% ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ 4.93 ล้านล้านดอลลาร์ หลังจากทำสถิติของการเป็นบริษัทสหรัฐฯ รายแรกที่มีมูลค่าตลาดทะลุระดับ 5 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
หุ้น Chipotle Mexican Grill แบรนด์ร้านอาหารเม็กซิกันชื่อดัง ดิ่งลง 18.2% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายในปีงบการเงิน 2568 เนื่องจากภาษีศุลกากรและเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท
ข่าวเด่น