
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันนี้ (7 พ.ย. 68) โดยเน้นย้ำถึงอิทธิพลของพายุและลมมรสุม ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และมีลมแรง
โดยพายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” (KALMAEGI) ซึ่งอยู่บริเวณเมืองกอนตูม ประเทศเวียดนาม ได้อ่อนกำลังลงเป็น พายุโซนร้อนแล้ว และมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในช่วง บ่ายของวันนี้ (7 พ.ย .68) ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจาก ฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่ม
พื้นที่เสี่ยงสูงสุด: จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์
นอกจากนี้ ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เนื่องจากมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าว
ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 7 พ.ย. 68
พยากรณ์อากาศรายภาค (วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้)
ภาคเหนือ
อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และพิจิตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ศรีสะเกษ, ยโสธร, มุกดาหาร, สุรินทร์, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, บุรีรัมย์, นครราชสีมา และชัยภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดลพบุรี, สระบุรี, นครสวรรค์, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสระแก้ว, ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา, นครนายก, จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
กรุงเทพฯ และปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ข่าวเด่น