ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ตลาดหุ้นไทยเปิด (10 พ.ย.68) บวก 3.40 จุด ดัชนี 1,306.31 จุด


ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ (10 พ.ย.68) เวลา 9.56 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,306.31 จุด บวก 3.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,352.77 ล้านบาท

บล. พาย ประเมิน SET Idex วันนี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,290-1,310 จุด เริ่มมีรายงานว่าหน่วยงานในสหรัฐจะกลับมาเปิดทำการ โดยรีพับลิกันและเดโมแครตใกล้จะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณ เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อตลาดหุ้นในภาพรวม ส่วนในประเทศรอติดตามผลประกอบการ (TACC ประกาศกำไรทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รายไตรมาส) มองเป็นหุ้นที่น่าสนใจ

วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ลดลง 6% สาเหตุลดลงจากสถานะการเงินส่วนบุคคลในปัจจุบัน และอีกส่วนมองว่าสภาพธุรกิจในข้างหน้าไม่ค่อยดีเท่าใดนักจากการที่รัฐบาลปิดหน่วยงานเป็นระยะเวลาค่อนข้างยาวนานกว่า 1 เดือน และการลดลงของความเชื่อมั่นเกิดขึ้นในหลายๆ ช่วงอายุ ยกเว้นกลุ่มที่ถือหุ้นในอัตราสูงพบว่ามีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น โดยรวมตัวเลขข้างต้นสะท้อนความเปราะบางของกำลังซื้อ กดดันให้ US Dollar กลับมาอ่อนค่าพร้อมกับเงินบาทที่แข็งค่าทดสอบ 32.4 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯค่อนข้างผันผวนจากความกังวล Valuation เริ่มแพง โดยเฉพาะกลุ่ม Technology อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเป็นเพียงระยะสั้นเพราะทิศทางการเติบโตของกำไรยังเด่นชัด จังหวะย่อตัวอาจมองเป็นโอกาสสะสม DR

สำหรับปัจจัยในประเทศนักลงทุนรอดูการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 โค้งสุดท้ายสัปดาห์นี้ ล่าสุดในวันศุกร์มีหุ้นรายงานกำไรโดดเด่นอย่าง TACC ประกาศกำไรสุทธิที่ 90 ล้านบาท (+49%YoY) และรายได้ขยายตัว (+29%YoY)

บริษัทระบุว่าสาเหตุหลักมาจากรายได้ใน 7-11 ที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับกระแสความนิยมของเครื่องดื่มชาไทยและชาเขียวในกลุ่มผู้บริโภคที่ยังมีต่อเนื่อง โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 32% ลดลงเล็กน้อย (1%) จากปีก่อนตามต้นทุนที่ปรับขึ้น (กาแฟ) มองหุ้นข้างต้นยังน่าสนใจด้วย PE ไม่แพงและปันผลที่สูง พร้อมกับเติบโตตามการขยายตัวของ 7-11

ส่วนคืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตามเนื่องจากสหรัฐฯ ยังไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ

กลยุทธ์การลงทุน เน้นกลยุทธ์เลือกเป็นรายตัวในหุ้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) การเงิน (MTC) เครื่องดื่ม (TACC)

TACC (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 6.60 บาท) ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 โดดเด่นมากโดยบริษัทรายงานรายได้ 619 ล้านบาท (+28.6%YoY) พร้อมกับกำไรสุทธิที่ 90 ล้านบาท (+49%YoY) ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สาเหตุจากการขยายตัวของ 7-11 รวมถึงกระแสนิยมชาไทยและชาเขียว ในขณะเดียวกันเป็นหุ้นที่ปันผลค่อนข้างสูงในระดับ 7-8%

TU (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 15.30 บาท) TU รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 ที่ระดับ 1,304 ล้านบาท ถ้าไม่รวมรายการพิเศษกำไรปกติจะอยู่ที่ 1,196 ล้านบาทใกล้เคียงที่เราคาดไว้ โดยสิ่งที่ดีในไตรมาสนี้คือถ้าไม่นับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากการฟื้นตัวในกลุ่มอาหารสัตว์ทั้งกุ้งและสัตว์เลี้ยง ส่วนเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2568 รายได้ฟื้นตัวทุกกลุ่ม สำหรับแนวโน้มช่วงไตรมาส 4 ปี 2568 เบื้องต้นคาดรายได้ทรงตัวไตรมาส 3 ปี 2568

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 พ.ย. 2568 เวลา : 10:46:47

10-11-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 10, 2025, 1:17 pm