ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (10 พ.ย.68) พุ่ง 381.53 จุด ขานรับความหวังชัตดาวน์ใกล้ยุติ


 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (10 พ.ย.68) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,368.63 จุด เพิ่มขึ้น 381.53 จุด หรือ +0.81%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,832.43 จุด เพิ่มขึ้น 103.63 จุด หรือ +1.54% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,527.17 จุด เพิ่มขึ้น 522.64 จุด หรือ +2.27% โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) พุ่งขึ้นนำตลาด ขานรับความหวังที่ว่าการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือชัตดาวน์ ใกล้จะยุติลง

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของสหรัฐฯ มีความคืบหน้าครั้งสำคัญ และอาจทำให้การชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลยุติลง หลังจากสมาชิกพรรคเดโมแครตสายกลางได้ลงคะแนนในเบื้องต้นสนับสนุนข้อตกลงเพื่อยุติการชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

ในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ วุฒิสภาได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 60 ต่อ 40 เห็นชอบต่อมติ procedural vote ซึ่งเป็นกระบวนการเบื้องต้นในการผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวให้มีความคืบหน้าไปสู่การลงมติขั้นสุดท้าย โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลส่วนใหญ่ในระดับเท่ากับปีที่ผ่านมาไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2569 และจะจัดสรรงบประมาณเต็มปีให้กับกระทรวงเกษตร, กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก, โครงการก่อสร้างทางทหาร และการดำเนินงานของสภาคองเกรส

ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ มีกำหนดจัดการประชุมอีกในวันจันทร์ที่ 10 พ.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวและอาจมีการลงมติขั้นสุดท้าย โดยหากวุฒิสภาอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นลำดับต่อไป และหากได้รับความเห็นชอบ ก็จะส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย

ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ร่วงลง 7.76% แตะที่ระดับ 17.60 หลังจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาล

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร พุ่งขึ้น 2.68% และ 2.53% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวลง 0.34% และ 0.14% ตามลำดับ

หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยหุ้น Nvidia ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก พุ่งขึ้น 5.8%, หุ้น Palantir ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล พุ่งขึ้น 8.8%, หุ้น Tesla ปรับตัวขึ้น 3.7%ฐ หุ้น Microsoft บวก 1.8% และหุ้น Broadcom พุ่งขึ้น 2.5%

รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Baird กล่าวว่า นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ AI หลังจากที่หุ้นกลุ่มนี้ถูกเทขายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับแสดงความเห็นว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและ AI ยังคงมีทิศทางที่สดใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทกลุ่มนี้

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง เนื่องจากการชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก โดยหุ้น United Airlines ปรับตัวลง 1.3% และหุ้น American Airlines ร่วงลง 2.5%

ส่วนหุ้นกลุ่มประกันสุขภาพร่วงลง โดยหุ้น Centene ดิ่งลง 8.8%, หุ้น Humana ร่วงลง 5.4% และหุ้น Elevance Health ลดลง 4.4% หลังจากสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ โหวตสนับสนุนร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว แต่ไม่ได้ระบุถึงการขยายเวลาการให้เงินอุดหนุนตามกฎหมายประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Affordable Care Act – ACA) ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยให้ชาวอเมริกันรายได้น้อยสามารถเข้าถึงการประกันสุขภาพในราคาที่จ่ายได้ และโครงการดังกล่าวกำลังจะหมดอายุในช่วงสิ้นปีนี้

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 พ.ย. 2568 เวลา : 10:56:06

11-11-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 11, 2025, 2:11 pm