.jpg)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเผชิญกับแรงกดดัน ถูกเทขายทำกำไรในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยได้รับผลกระทบพร้อมกับสินทรัพย์อื่นๆ ทั้งตลาดหุ้น รวมถึงตลาดคริปโต สะท้อนถึงการเทขายทำกำไรในตลาดทั่วโลก ซึ่งได้รับอิทธิพลหลักมาจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ ความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่ Fed อาจจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม ตามที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า
การร่วงลงอย่างรุนแรงในช่วงวันศุกร์ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวร่วงลงกว่า 180 เหรียญ ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 4,032 เหรียญ อย่างไรก็ตามราคาทองคำสามารถฟื้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 4,085 เหรียญ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งชี้ว่ายังมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาด
ในขณะที่ราคาทองคำถูกกดดัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) กลับปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 99.38 จุด จากระดับ 99.25 จุด เมื่อวันก่อนหน้า ด้านค่าเงินบาทมีแนวโน้มทรงตัวในทิศทางอ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวที่ระดับ 32.43 บาท/ดอลลาร์ จากระดับ 32.35 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าขายออก 4.93 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,044.0 ตันภาพรวมเดือนพฤศจิกายน ซื้อสุทธิ 3.65 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 170.62 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำถูกเทขายจนทำให้ราคาหลุดแนวรับ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยในระยะสั้นและระยะกลางลงมา มองว่าราคาทองคำอาจจะมีรอบของการพักฐานอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมโครงสร้างของราคายังคงแสดงความแข็งแกร่งและ "ไม่เสียทรง" เนื่องจาก แม้จะมีการปรับฐานลงมา แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ฐานราคาโดยรวมยังคงยกสูงขึ้น (Higher Low) และยังไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ (New Low) ซึ่งหมายความว่า ภาพรวมโครงสร้างทางเทคนิคของทองคำยังไม่เสียทรงไปมากนัก ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,055-4,035 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,130 -4,150 เหรียญ ขณะที่ทองไทยจะมีแนวรับที่ 62,200 บาท และแนวต้านที่ 63,200 บาท
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 4,060 เหรียญ และแนวต้าน 4,155 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 4,040 เหรียญ และแนวต้าน 4,135เหรียญ Gold Futures Series V25 จะมีแนวรับที่ระดับ 62,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 63,600 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่าง ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบระยะสั้น ตามแนวโน้ม “Sideways” ปรับฐาน รอซื้อเมื่อราคาย่อตัว และแบ่งขายปิดทำกำไรตามกรอบแนวต้าน ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลดสถานะ Long หรือรอเกิดสัญญาณกลับตัวสร้างฐานใหม่แล้วเข้าซื้อตามกรอบแนวรับ เน้นเทรดระยะสั้นลง เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำแบ่งปิดทำกำไรตามรอบ หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น