(225)(318).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (20 พ.ย.68) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,752.26 จุด ลดลง 386.51 จุด หรือ -0.84%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,538.76 จุด ลดลง 103.40 จุด หรือ -1.56% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,078.05 จุด ลดลง 486.18 จุด หรือ -2.15%
เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอ่อนแรงลง หลังจากที่พุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการของบริษัท Nvidia ในระหว่างวัน นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐฯ ยังให้ภาพที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเดือนธ.ค.
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 2.66% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 1.73% ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคดีดตัวขึ้นสวนทางตลาด โดยปรับตัวขึ้น 1.1%
หุ้น Walmart ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 6.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาดในไตรมาส 3/2568
ทั้งนี้ ในระหว่างวัน ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 700 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ดีดตัวขึ้นเช่นกัน หลังจาก Nvidia เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2569 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 26 ต.ค. 2568 และยังได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 4 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
แต่ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีอ่อนแรงในเวลาต่อมา และปิดตลาดร่วงลง โดยดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. ส่วนดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 11.67% ปิดที่ 26.42 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงนำตลาด โดยหุ้น Nvidia ปิดร่วงลง 3.2% หลังจากทะยานขึ้นกว่า 5% ในระหว่างวัน ขณะที่หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ปรับตัวลงเช่นกัน ส่วนดัชนีหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดหุ้นฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia SE Semiconductor Index) ร่วงลง 4.7%
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในธุรกิจเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เนื่องจากมองว่าหุ้นในกลุ่มนี้มีมูลค่าที่สูงเกินไป แม้เจนเซน หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia กล่าวกับนักลงทุนในระหว่างการเปิดเผยผลประกอบการครั้งล่าสุดว่า แม้นักวิเคราะห์หลายรายต่างก็พูดถึงภาวะฟองสบู่ในธุรกิจ AI แต่ Nvidia เห็นต่างอย่างมากในเรื่องนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2564 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 4.3% แต่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 119,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 53,000 ตำแหน่ง
ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหรือไม่ในการประชุมเดือนธ.ค. โดยล่าสุดนักลงทุนให้น้ำหนักไม่ถึง 40% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
สำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานจะไม่เผยแพร่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค. แต่จะนำข้อมูลของเดือนดังกล่าวมารวมไว้ในรายงานเดือนพ.ย. เนื่องจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ส่งผลให้ BLS ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลจากการสำรวจภาคครัวเรือนในช่วงเวลานั้น โดยการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรรวมเดือนต.ค.และเดือนพ.ย. จะมีขึ้นในวันที่ 16 ธ.ค. หลังการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9-10 ธ.ค.
ข่าวเด่น