หุ้นทอง
หุ้นเดือนตุลาคม ลุ้นมาตรการกระตุ้นรัฐ คนละครึ่งหนุนใช้จ่าย!!!


“ทรีนีตี้” มองหุ้น เดือนแรกปีงบประมาณ 69 Sideways ประเมินกรอบแนวต้านของ SET Index  ที่ 1300-1320 จุด แนวรับ 1240-1250 จุด ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล -กนง. หากลดดอกเบี้ยอีก จะช่วยประคองดัชนีได้ ส่วนกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจยังคงได้แก่ กลุ่มหุ้น Bond-like อาทิ กอง IFF และกอง REIT กลุ่ม Defensive play เช่นโรงพยาบาลและสาธารณูปโภค รวมไปถึงกลุ่ม Domestic cyclicals เช่น ค้าปลีก ไฟแนนซ์ และอสังหาฯ แนะใช้จังหวะที่ราคาอาจย่อตัวรับงบไตรมาส 3 เข้าลงทุน

 
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์  บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยเดือนตุลาคมว่า คาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways โดยมีปัจจัยที่อาจเป็นตัวกระตุ้นด้าน Sentiment ภายในประเทศ ได้แก่ ความคาดหวังในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ เช่นนโยบายคนละครึ่ง ซึ่งหากเกิดขึ้นได้เร็ว คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและการหมุนเวียนของเงินในประเทศได้บ้าง ส่วนปัจจัยกระตุ้นอื่นที่อาจเกิดขึ้นในเดือนนี้ ได้แก่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย ซึ่งถ้าหากมีการลดดอกเบี้ยได้ 0.25% จะถือเป็นตัวแปรสนับสนุน Multiple ของดัชนีให้มีการขยับขยายขึ้นได้อีกเล็กน้อย ในทางกลับกัน ความเสี่ยงในเดือนนี้ ในฝั่งของปัจจัยต่างประเทศได้แก่ภาวะเศรษฐกิจโลก ที่เริ่มเห็นเครื่องชี้ต่างๆออกมาในทิศทางแย่กว่าคาดมากขึ้น ส่วนปัจจัยในประเทศมองไปยังผลประกอบการไตรมาส 3/25 ที่จะทยอยประกาศออกมา ซึ่งอาจยังไม่มีทิศทางที่ดีขึ้นเท่าใดนัก โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic play เนื่องจากเป็นช่วงสุญญากาศทางการเมือง และเป็นช่วง Low season ของการบริโภค

ประเมินกรอบแนวต้านของ SET Index ประจำเดือนตุลาคมที่ระดับ 1300-1320 จุด ซึ่งเป็นระดับเทียบเท่ากรณีฐานจากวิธี PE Model ของเรา ซึ่งอิงสมมติฐานการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของกนง.สู่ระดับ 1.25% เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ตัวคูณ PE มีการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 14.4x คูณกับประมาณการ EPS ปี 2025 ล่าสุดที่ 91 บาท ในทางกลับกัน ประเมินกรอบแนวรับดัชนี SET เดือนนี้จะอยู่ที่บริเวณ 1240-1250 จุด ซึ่งเป็นระดับเทียบเท่าเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันและ 200 วันล่าสุด

กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในช่วงนี้ยังคงได้แก่ กลุ่มหุ้น Bond-like อาทิ กอง IFF และกอง REIT กลุ่ม Defensive play เช่นโรงพยาบาลและสาธารณูปโภค รวมไปถึงกลุ่ม Domestic cyclicals เช่น ค้าปลีก ไฟแนนซ์ และอสังหาฯ ที่แนะใช้จังหวะที่ราคาอาจย่อตัวลงมาในช่วงของการประกาศงบไตรมาส 3/25 ในการเข้าซื้อ มองหุ้นที่น่าสนใจประจำเดือนนี้ ได้แก่ DIF, FTREIT, BDMS, BGRIM, CPAXT, KTC และ CPN

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 ต.ค. 2568 เวลา : 18:54:24
03-10-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 9 ต.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำประชานุกูล

2. ตลาดหุ้นปิด (2 ต.ค.68) บวก 13.26 จุด ดัชนี 1,288.29 จุด

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (2 ต.ค.68) บวก 15.63 จุด ดัชนี 1,290.66 จุด

4. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (uptrend) อย่างต่อเนื่อง กรอบแนวรับระยะสั้นวันนี้ที่ 3,840-3,820 เหรียญ แนวต้านที่ 3,890-3,910 เหรียญ

5. ตลาดหุ้นไทยเปิด (2 ต.ค.68) บวก 9.72 จุด ดัชนี 1,284.75 จุด

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (1 ต.ค.68) ทำนิวไฮ บวก 24.3 ดอลลาร์ ชัตดาวน์หน่วยงานสหรัฐหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

7. ทองเปิดตลาดวันนี้ (2 ต.ค. 68) ร่วงลง 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 60,100 บาท

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

9. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (1 ต.ค.68) บวก 43.21 จุด นักลงทุนเมินชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ

10. พยากรณ์อากาศวันนี้ (2 ต.ค.68) ฝนฟ้าคะนองในภาคเหนือ 60% กรุงเทพปริมณฑล และภาคอื่นๆ 40%

11. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (2 ต.ค.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.43 บาทต่อดอลลาร์

12. ตลาดหุ้นปิด (1 ต.ค.68) บวก 0.86 จุด ดัชนี 1,275.03 จุด

13. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,850 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,900 เหรียญ

14. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

15. ทองเปิดตลาดวันนี้ (1 ต.ค. 68) พุ่งพรวด 1,000 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 60,200 บาท

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ October 3, 2025, 6:45 am