เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ครม.เห็นชอบ NDC 3.0 ยกระดับเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกของไทย สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593


 
นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contribution: NDC) ฉบับที่ 2 หรือ NDC 3.0 ของประเทศไทย ซึ่งเป็นกรอบเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระยะ 10 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2574–2578) เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ ภายใต้ กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) และ ความตกลงปารีส (Paris Agreement)

 
รัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ ได้ยืนยันจุดยืนของประเทศไทยในการร่วมแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศร่วมกับนานาประเทศ โดยกำหนดเป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เหลือไม่เกิน 152 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือคิดเป็นการลดลงร้อยละ 47 จากระดับปีฐาน 2562 ซึ่งถือเป็นการยกระดับเป้าหมายจาก NDC ฉบับก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า NDC 3.0 ครอบคลุม 5 สาขาหลัก ได้แก่ พลังงานและคมนาคม อุตสาหกรรม เกษตร ของเสีย และป่าไม้–การใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยมีสัดส่วนการดำเนินงาน ร้อยละ 70 ด้วยศักยภาพภายในประเทศ และอีก ร้อยละ 30 ขอรับการสนับสนุนด้านเทคนิคและการเงินจากต่างประเทศ ทั้งนี้ เป้าหมายดังกล่าวมุ่งสู่ “ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 (Carbon Neutrality)” และ “การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)” เพื่อให้ประเทศไทยมีส่วนร่วมจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส

รัฐบาลเชื่อมั่นว่า การเห็นชอบ NDC 3.0 จะช่วยยกระดับบทบาทของประเทศไทยในเวทีสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ เสริมสร้างความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Economy) ตามแนวนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของรัฐบาล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลข้อที่ 13 “สิ่งแวดล้อมยั่งยืน เศรษฐกิจสีเขียว” ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มพื้นที่สีเขียว และสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อให้การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเติบโตควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืน.


---

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 พ.ย. 2568 เวลา : 15:52:53
05-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (4 พ.ย.68) ลบ 10.26 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,298.60 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (4 พ.ย.68) ลบ 8.54 จุดดัชนี 1,300.32 จุด

3. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.65 บาท/ดอลลาร์

4. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (3 พ.ย.68) บวก 17.5 ดอลลาร์ ตลาดจับตาจ้างงานภาคเอกชนประเมินดอกเบี้ยเฟด

5. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (3 พ.ย.68) ลบ 226.19 จุด หุ้นเฮลธ์แคร์ร่วงกดดันตลาด-กังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด

6. MTS Gold คาดราคาทองคำ แนวรับที่ 3,980-3,950 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,440-4,460 เหรียญ

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ (4 พ.ย.68) ฝนฟ้าคะนองในภาคตะวันออก 70% กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคใต้ ฝั่ง ตต. 60% ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 40% ภาคเหนือ 30% ภาคอีสาน 20%

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (4 พ.ย.68) ลบ 2.67 จุด ดัชนี 1,306.19 จุด

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (4 พ.ย. 68) ลดลง 100 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,200 บาท

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (4 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (3 พ.ย.68) ลบ 0.64 จุด ดัชนี 1,308.86 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (3 พ.ย.68) บวก 3.56 จุด ดัชนี 1,313.06 จุด

13. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทาง Sideway Down โดยราคาทองคำยังไม่สามารถสร้างฐานและยืนเหนือระดับสำคัญที่ 4,000 เหรียญ

14. กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.20-32.70 ติดตามข้อมูลสหรัฐและค่าเงินหยวน

15. พยากรณ์อากาศวันนี้ (3 พ.ย.68) ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่าน ส่งผล "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก" ฝนตกหนัก 70% ภาคเหนือ-ภาคใต้ 60% ภาคอีสาน 40%

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 5, 2025, 9:13 am