กองทุนรวม
บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายปันผลกองหุ้น ES-SET50-D พร้อม 2 กอง ThaiESGX รวมมูลค่ากว่า 24 ล้านบาท ดีเดย์ 19 พ.ย. 68 นี้


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนภายใต้การบริหารจัดการ จำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนหุ้นไทย จำนวน 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง SET50 (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (ES-SET50-D) สำหรับผลการดําเนินงานรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ในอัตรา 0.70 บาทต่อหน่วย  และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ThaiESGX) อีก 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง หุ้นปันผลไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ ชนิดเงินลงทุนใหม่ปี 2568 แบบจ่ายเงินปันผล (ES-DIVTHAIESGX-68D) ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วยและชนิดเงินลงทุนเดิมแบบจ่ายเงินปันผล (ES-DIVTHAIESGX-LD)ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย  ส่วนอีกกองทุนคือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง หุ้นปันผล 70 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษชนิดเงินลงทุนใหม่ปี 2568 แบบจ่ายเงินปันผล (ES-DIV70THAIESGX-68D) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วยและชนิดเงินลงทุนเดิมแบบจ่ายเงินปันผล (ES-DIV70THAIESGX) ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดเงินจ่ายปันผลในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 รวมมูลค่า 24,553,428.88 บาท

สำหรับกองทุนเปิดอีสท์สปริง SET50 (ชนิดจ่ายเงินปันผล) มีนโยบายที่จะพยายามลงทุนในหุ้นเต็มอัตรา (fully invested) เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี SET50 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยกองทุนจะใช้กลยุทธ์การบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive management strategy) เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี SET50 ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวได้เริ่มต้น Class D - ชนิดจ่ายเงินปันผล เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567  ซึ่งมีการจ่ายปันผลครั้งแรกในอัตรา 0.40 บาทต่อหน่วย เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยรวมกับจ่ายปันผลงวดนี้อีก 0.70 บาทต่อหน่วย รวมเป็นยอดจ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 1.10 บาทต่อหน่วย (ที่มา: บลจ.อีสท์สปริง ณ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568)

ส่วนกองทุน ThaiESGX ทั้ง 2 กองทุนคือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง หุ้นปันผล 70 ไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (ES-DIV70THAIESGX) และกองทุนเปิดอีสท์สปริง หุ้นปันผลไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ โดยทั้งสองกองทุนมีนโยบายลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืนตามหลักเกณฑ์เดียวกันกับกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ทั้งนี้ กองทุน ES-DIV70THAIESGX เป็นกองผสมแบบ Aggressive allocation เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ได้รับ SET ESG Rating ระดับ AA ขึ้นไป บริษัทที่มีประวัติการจ่ายปันผลดีสม่ำเสมอ รวมถึงมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีในอนาคต ในสัดส่วน 65-70% และตราสารหนี้ที่ตอบโจทย์ความยั่งยืน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ/ เอกชนเพื่อความยั่งยืน ได้แก่ พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม(Green Bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond) หรือบริษัทที่อยู่ในเกณฑ์ ESG ของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ Investment Grade ขึ้นไปเท่านั้นและต้องผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้านเครดิตของบริษัท สัดส่วน 10-30% 
 
ส่วนกองทุน ES-DIVTHAIESGX จะบริหารพอร์ตด้วยกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก(Active Management) โดยเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ได้รับ SET ESG Rating ระดับ AA ขึ้นไป โดยวัดจากดัชนีชี้วัด SETESG TRI และเป็นบริษัทที่มีประวัติการจ่ายปันผลดีสม่ำเสมอ รวมถึงมีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีในอนาคต เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
 
ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบลจ.อีสท์สปริง หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทั้งนี้ การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน การฝากเงินมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกก็ได้ และอาจไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนด หรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 17 พ.ย. 2568 เวลา : 19:07:23
18-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (18 พ.ย.68) ลบ 10.03 จุด ดัชนี 1,270.04 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (18 พ.ย.68) ลบ 10.14 จุด ดัชนี 1,269.93 จุด

3. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (17 พ.ย.68) ลบ 19.7 เหรียญ เหตุดอลลาร์แข็งค่าฉุดตลาด

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (17 พ.ย.68) ร่วง 557.24 จุด ถูกกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วง-จับตาผลประกอบการ Nvidia

5. พยากรณ์อากาศ (18 พ.ย.68) ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง แต่ยังคงมีฝนบางพื้นที่,ภาคอีสาน อุณหภูมิลด 3-5 องศา,ยอดดอย หนาวจัด 4 องศา,ภาคใต้ ฝน 70-80-%

6. MTS Gold คาดราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,010-3,990 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,060 -4,090 เหรียญ

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (18 พ.ย. 68) ร่วงลง 850 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,700 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (18 พ.ย.68) ลบ 9.20 จุด ดัชนี 1,270.87 จุด

10. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (18 พ.ย.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 32.48 บาทต่อดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (17 พ.ย.2568) บวก 10.81 จุด ดัชนี 1,280.07 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (17 พ.ย.68) บวก 3.64 จุด ดัชนี 1,272.90 จุด

13. MTS Gold ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,055-4,035 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,130 -4,150 เหรียญ

14. อุตุฯ เตือนประเทศไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง "ยอดดอย" หนาวจัด 7 องศา

15. กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.20-32.80 รอข้อมูลสหรัฐฯ

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 18, 2025, 8:19 pm