กองทุนรวม
บลจ.อีสท์ปสริง คัด 5 กองทุนเด็ดประหยัดภาษี "RMF-ThaiESG" จัดพอร์ตลงทุนช่วงท้ายปี 68


 
บลจ.อีสท์สปริง แนะจัดพอร์ตกองทุนประหยัดภาษี RMF และ ThaiESG ช่วงท้ายปี 68 คัดสรร 5 กองทุนที่มีศักยภาพ ครอบคลุมทั้งตราสารหนี้ทั่วโลก,กองผสม,หุ้น S&P 500, หุ้นเทคโนโลยี และหุ้น-ตราสารหนี้ ThaiESG เพิ่มโอกาสเติบโตพอร์ตพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี  

 
นายยิ่งยง เจียรวุฑฒิ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า กลยุทธ์การลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีในช่วงโค้งสุดท้ายของปี สำหรับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) ควรจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสม ด้วยการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์หรือตลาดใดตลาดหนึ่งเพียงอย่างเดียว ดังนั้น บลจ.อีสท์สปริงจึงได้คัดสรร 5 กองทุนที่มีศักยภาพ ครอบคลุมตราสารหนี้ทั่วโลก,กองผสม,หุ้น S&P 500, หุ้นเทคโนโลยี และหุ้น-ตราสารหนี้ ThaiESG เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับโอกาสเติบโตของพอร์ตในอนาคตและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

สำหรับกองทุน RMF แนะนำ 4 กองทุน ประกอบด้วย 1.ตราสารหนี้ทั่วโลก คือกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Income เพื่อการเลี้ยงชีพ (ES-GINCOMERMF) เน้นลงทุนในกองทุน PIMCO GIS Income Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จุดเด่นกองทุนหลัก เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกที่มีเป้าหมายการจ่ายอัตราผลตอบแทนสม่ำเสมอ เช่น พันธบัตรรัฐบาล, หุ้นกู้เอกชน, ตราสารที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันจดจำนอง, ตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ ฯลฯ มีความยืดหยุ่นในการลงทุน โดยสามารถปรับอายุเฉลี่ยของพอร์ตได้ตั้งแต่ 0 ถึง 8 ปี เพื่อสร้างโอกาสในการลงทุนในสภาวะตลาดต่างๆ กัน บริหารจัดการโดย PIMCO Investment Management ผู้นำทางด้านการบริหารจัดการตราสารหนี้เชิงรุกกว่า 50 ปี มองว่ากลุ่มตราสารหนี้คุณภาพสูงมีโอกาสได้รับปัจจัยสนุนจากการกลับมาลดดอกเบี้ยอีกครั้งของทางธนาคารกลางสหรัฐฯ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงเติบโตแข็งแกร่งกว่าคาด

2.กองทุนผสม คือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Multi Asset Income เพื่อการเลี้ยงชีพ (ES-GAINCOMERMF) เน้นลงทุนในกองทุน AMUNDI FUNDS INCOME OPPORTUNITIES (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด ClassI2 USD โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จุดเด่นกองทุนหลักคือลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่หลากหลาย เช่น หุ้น ตราสารหนี้ และตราสารทางเลือก เช่น หุ้นกู้อนุพันธ์, ตราสารหนี้ Securitization, REIT ฯลฯ มีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะต่างๆ เพื่อมุ่งหวังโอกาสในการสร้างผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่ดี บริหารจัดการโดย Amundi Luxembourg S.A  มองว่าเงินเฟ้อยังไม่เพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้ธนาคารกลางมีพื้นที่ “ลด” ดอกเบี้ย ผลตอบแทนพันธบัตร (Yield) อยู่ในระดับน่าสนใจ ช่วยสร้างรายได้สม่ำเสมอ ความผันผวนตลาดหุ้นสูง นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอ ตราสารหนี้คุณภาพดี (Investment Grade) มีโอกาสทำผลงานเหนือกว่า โดยการลงทุนแบบ multi-sector ช่วยรับมือสภาพตลาดเปลี่ยนแปลงได้ดี

3.หุ้นเทคโนโลยี ได้แก่กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Prime Technology เพื่อการเลี้ยงชีพ (ES-TECHRMF) เน้นลงทุนในกองทุน Eastspring Investments – Global Technology Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class C บริหารจัดการ โดย Eastspring Investments (Luxembourg) S.A. โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก โดยพยายามเฟ้นหาบริษัทที่เป็นผู้นำหรือ Winner ทางด้าน Technology ในอนาคต ใน 5 ธีม หลัก ได้แก่ Fintech, Internet 3.0, Next Generation Infrastructure, Productivity & Automation และ Electrification  โดยมองว่ากระแส AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเฟสของการเร่งลงทุนเท่านั้น ซึ่งจะทำให้การนำ AI ไปใช้มีความแพร่หลายมากขึ้น และเป็นแรงปฏิวัติอุตสาหกรรมของเศรษฐกิจยุคใหม่

4. หุ้น S&P 500 คือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง US500 เพื่อการเลี้ยงชีพ (ES-US500RMF) เน้นลงทุนในกองทุน iShares Core S&P 500 ETF ซื้อขายใน NewYork Stock Exchange,NYSE Arca บริหารจัดการโดยBlackRock Fund Advisors  กองทุนหลักลงทุนในตราสารทุนประเทศสหรัฐฯ ที่มุ่งเน้นลงทุนตามดัชนี S&P 500 ที่ประกอบด้วยกิจการขนาดใหญ่ 500 บริษัทในสหรัฐฯ เป็นตัวเลือกการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่เชื่อมั่นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งนี้ Earnings growth ของกลุ่มบริษัทใหญ่ (Mega cap) ยังโดดเด่น หลายอุตสาหกรรมได้อานิสงส์จาก AI, Digital transformation โดยสหรัฐฯ ยังเป็นตลาดหลักที่ดึงดูดเงินทุนทั่วโลก ขณะที่กำไรบริษัทในไตรมาส 3 ออกมาดีกว่าที่คาด และเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยสนับสนุนหุ้นสหรัฐฯ 

ส่วนกองทุน  ThaiESG แนะนำ 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง ESG Mixed 30/70 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืนสะสมมูลค่า)  (ES-ESG3070-ThaiESG-A) เน้นการลงทุนในหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี SET ESG และตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน จุดเด่นคือโอกาสสร้างการเติบโตของพอร์ตลงทุนอย่างสมดุล จากการผสมผสานระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้ยั่งยืนในสัดส่วน 30% และ 70% โดยการลงทุนแบบ ESG ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน หุ้นไทย valuation อยู่ในระดับน่าสนใจ เมื่อเทียบกับภูมิภาค คาดว่าแบงก์ชาติมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งเพื่อประคองเศรษฐกิจ รัฐบาลมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยพยุงดีมานด์ในประเทศ บริษัทที่มี ESG ดี มักมีความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ (Regulation risk) ต่ำกว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสนับสนุนผลประกอบการระยะกลาง

พร้อมกันนี้ บลจ.อีสท์สปริง ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ลงทุนในกองทุนรวม RMF และกองทุน ThaiESGยอดเงินลงทุนทุก ๆ 50,000 บาท รับหน่วยลงทุนในกองทุนเปิดอีสท์สปริงบริหารเงิน (ES-CASH) มูลค่า 100 บาท ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. - 31 ธ.ค. 2568 ตามเงื่อนไขโปรโมชั่นที่ บลจ. อีสท์สปริง กำหนด

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของ หรือผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับการแต่งตั้ง  ผู้ลงทุนทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และคู่มือการลงทุนและขอรับหนังสิอชี้ชวนในกองทุนรวมดังกล่าว ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ เงื่อนไขการลงทุนในกองทุนและเงื่อนไขการได้รับสิทธิโปรโมชั่นในกองทุนต้องเป็นไปตามเงื่อนไขทางภาษีตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด  การลงทุนในกองทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงของการลงทุนผู้ลงทุนอาจจะได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้และอาจไม่ได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาที่กำหนดหรืออาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้ เนื่องจากบางกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/ หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 พ.ย. 2568 เวลา : 14:08:04
25-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (25 พ.ย.68) บวก 16.05 จุด ดัชนี 1,268.78 จุด

2. ประกาศ กปน.: 2 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 พ.ย.68) บวก 14.49 จุด ดัชนี 1,267.22 จุด

4. MTS Gold คาดราคาทองคำประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,110-4,080 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,160-4,180 เหรียญ

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (25 พ.ย.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์

6. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 พ.ย.68) บวก 14.7 ดอลลาร์ ขานรับความหวังเฟดลดดบ.เดือน ธ.ค.

7. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 พ.ย.68) บวก 202.86 จุด รับคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (25 พ.ย. 68) พุ่งขึ้นแรง 750 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,150 บาท

9. ตลาดหุ้นไทยเปิด (25 พ.ย.68) บวก 9.75 จุด ดัชนี 1,262.48 จุด

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.45 บาท/ดอลลาร์

11. พยากรณ์อากาศวันนี้ (25 พ.ย.68) ทั่วไทยอากาศเย็นลงลมแรง อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา เว้นภาคอีสาน ลด 2-4 องศา ภาคเหนือ 2-3 องศา ส่วนภาคใต้ ฝนฟ้าคะนอง 70%

12. ประกาศ กปน.: 30 พ.ย. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำลาดกระบัง

13. ตลาดหุ้นปิด (24 พ.ย.68) ลบ 1.67 จุด ดัชนี 1,252.73 จุด

14. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (24 พ.ย.68) บวก 3.54 จุด ดัชนี 1,257.94 จุด

15. กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 32.20-32.70 ตลาดไม่แน่ใจแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2025, 8:49 pm