เอสเอ็มอี
"ธนกร" ประกาศ "พักหนี้ - ดีพร้อม" ยกต้น : ยกดอก อัตโนมัติ 4 เดือน ช่วยลูกหนี้ SME น้ำท่วมภาคใต้ เร่งเพิ่มสภาพคล่องผ่านสินเชื่อ "เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ" ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน


 
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ขานรับนโยบายเร่งด่วนของ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินมาตรการเร่งด่วน“การบรรเทา ฟื้นฟู และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรม หรือสินเชื่อ “เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ” เพื่อให้ความช่วยเหลือ และลดภาระด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในพื้นที่ภาคใต้ผ่านเงินทุนเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย หรือดีพร้อมเปย์ (DIPROM Pay) โดยลูกหนี้ชั้นดีรายเดิมจะได้รับการพักชำระหนี้อัตโนมัติทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ไม่เกิน 4 เดือน พร้อมลดภาระค่างวดผ่อนชำระรายเดือนและขยายระยะเวลาชำระหนี้ได้ไม่เกิน 2 ปี ส่วนลูกหนี้รายใหม่สามารถกู้วงเงินได้ รายละไม่เกิน 5 แสนบาท ปลอดดอกเบี้ย 6 เดือนแรก พร้อมพักชำระหนี้อัตโนมัติ 3 เดือน

 
นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 หลายจังหวัดได้รับผลกระทบความเสียหายรุนแรง โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ถูกจัดเป็นพื้นที่ความรุนแรงระดับหนักมาก ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนและความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการรายย่อย และวิสาหกิจชุมชน กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนในพื้นดังกล่าว จึงสั่งการให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เร่งให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน และในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย จึงออกมาตรการเร่งด่วนผ่าน “มาตรการบรรเทา ฟื้นฟู และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรม” กรอบวงเงินล็อตแรก 50 ล้านบาท เพื่อมุ่งช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่เป็นลูกหนี้สินเชื่อของเงินทุนหมุนเวียนฯ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้ได้รับการผ่อนผันการชำระหนี้ลดอัตราดอกเบี้ย ให้สิทธิรีไฟแนนซ์ (Refinance) นอกจากนี้ ลูกค้ารายใหม่ยังสามารถยื่นขอสินเชื่อ “เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ” ภายใต้มาตรการดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ปรับปรุง ซ่อมแซม ฟื้นฟูกิจการ และทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย หรือเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจให้มีโอกาสฟื้นตัวในการประกอบอาชีพ หรือธุรกิจต่อไป 

นางสาวณัฏฐิญา กล่าวต่อว่า สำหรับคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่ประสงค์ขอรับความช่วยเหลือต้องอยู่ในพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยและเป็นลูกหนี้เงินทุนหมุนเวียนฯ ชั้นดี รายเดิม หรือมีประวัติการค้างชำระไม่เกิน 1 ปี จะได้รับสิทธิ ดังนี้ (1) พักชำระหนี้อัตโนมัติ ไม่เกิน 4 เดือน และยกดอกเบี้ยระหว่าง 4 เดือนนี้ ให้ลูกหนี้โดยไม่ต้องชำระคืนภายหลัง (2) ลดค่างวดผ่อนชำระรายเดือน ร้อยละ 50 ตามสัญญาเดิม เป็นระยะเวลา 4 เดือน (3) สามารถขอขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ได้ไม่เกิน 2 ปี โดยรวมแล้วต้องไม่เกินระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญาเดิม และ (4) สามารถขอรีไฟแนนซ์เงินกู้ (Refinance) โดยวงเงินกู้ใหม่จะต้องไม่เกินวงเงินกู้เดิม ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบและต้องการเสริมสภาพคล่อง ยังสามารถยื่นขอรับสินเชื่อ “เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ” โดย ดีพร้อม มีมาตรการพิเศษเพื่อการบรรเทา ฟื้นฟู และให้ความช่วยเหลือฯ ผ่านวงเงินกู้ไม่เกิน 
500,000 บาท ต่อราย/กิจการ ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 2 ปี ปลอดดอกเบี้ยเดือนที่ 1 – 6 และเดือนที่ 7 – 24 อัตราดอกเบี้ยพิเศษแบบขั้นบันได ไม่เกินร้อยละ 6 ต่อปี พร้อมสิทธิการพักชำระหนี้อัตโนมัติ ไม่เกิน 3 เดือน

นอกจากมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนในภาวการณ์ฉุกเฉินแล้ว ดีพร้อมยังเร่งเตรียมส่งธารน้ำใจไปยังผู้ประสบภัยด้วยถุงยังชีพผ่าน “ศูนย์อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทยประสบภัยพิบัติ” โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาคเอกชนและหน่วยงานเครือข่าย รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภค บริโภค และน้ำดื่ม ส่งมอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน นางสาวณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถยื่นคำขอได้ด้วยตนเอง หรือส่งคำขอทางไปรษณีย์มาที่ กลุ่มบริหารเงินทุน สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ชั้น 4 ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0 2430 6865 – 66 ต่อ 1051 หรือ DIPROM Center 1-11 ที่ประจำอยู่ในแต่ละเขตพื้นที่รับผิดชอบ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 01 ธ.ค. 2568 เวลา : 20:50:08
12-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. MTS Gold คาดราคาทองคำเข้าสู่รูปแบบ "Sideway Up" ขณะที่วันนี้ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,250-4,230 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,300-4,320 เหรียญ

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (12 ธ.ค.68) บวก 0.29 จุด ดัชนี 1,253.83 จุด

3. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (11 ธ.ค.68) พุ่ง 88.30 ดอลลาร์ ขานรับเฟดลดดอกเบี้ย

4. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (11 ธ.ค.68) พุ่งทำนิวไฮ บวก 646.26 จุด รับเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก

5. พยากรณ์อากาศวันนี้ (12 ธ.ค.68) ภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้น 70% กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้าและมีฝน 10-20% บางพื้นที่

6. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.55-31.80 บาท/ดอลลาร์

7. ตลาดหุ้นไทยเปิด (12 ธ.ค.68) บวก 1.32 จุด ดัชนี 1,254.86 จุด

8. ทองเปิดตลาดวันนี้ (12 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 500 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 64,750 บาท

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (12 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 31.63 บาทต่อดอลลาร์

10. ประกาศ กปน.: 16 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำลาดกระบัง

11. ประกาศ กปน.: 16 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนสิรินธร

12. ตลาดหุ้นปิด (11 ธ.ค.68) ลบ 16.33 จุด ดัชนี 1,253.54 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (11 ธ.ค.68) ลบ 14.54 จุด ดัชนี 1,255.33 จุด

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (10 ธ.ค.68) ร่วง 11.50 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟดลดดอกเบี้ย

15. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (10 ธ.ค.68) พุ่ง 497.46 จุด รับเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 12, 2025, 4:01 pm