เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ "BI คงดอกเบี้ยที่ 4.75% เน้นรักษาเสถียรภาพค่าเงิน"


ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.75% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี ระหว่างวันที่ 16-17 ธ.ค.2025 พร้อมคงดอกเบี้ยเงินฝากที่ 3.75% และดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 5.50% สะท้อนจุดยืนเชิงนโยบายที่ยังให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพค่าเงินและตลาดการเงิน โดยมีรายละเอียดดังนี้

· ค่าเงินรูเปียห์อ่อนค่ายังเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลต่อการลดดอกเบี้ย ตั้งแต่ต้นปีรูเปียห์อ่อนค่าลง 3.35% มาอยู่ที่ 16,722 รูเปียห์ต่อดอลลาร์ฯ (ณ วันที่ 19 ธ.ค.) (รูปที่ 1) จากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้ ส่งผลให้ดุลบัญชีการเงินปี 2025 มีแนวโน้มขาดดุลครั้งแรกในรอบ 3 ปี ทำให้ BI จึงจำเป็นต้องดำเนินมาตรการพยุงค่าเงินอย่างต่อเนื่อง ผ่านการแทรกแซงตลาดเงินควบคู่กับการซื้อพันธบัตรรัฐบาล และการใช้เครื่องมือเสริมสภาพคล่องเพื่อช่วยบริหารกดต้นทุนทางการเงิน

รูปที่ 1: เงินทุนไหลออกกดดันค่าเงินรูเปียห์อ่อนค่าต่อเนื่องนับจากต้นปี 2025
 
ในปี 2025 ดุลบัญชีการเงินมีความเสี่ยงขาดดุล ค่าเงินรูเปียห์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง
 

 
· อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย โดยอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ย.อยู่ที่ 2.72% อยู่ในกรอบเป้าหมาย 1.5-3.5% แม้เปิดโอกาสให้ BI สามารถลดดอกเบี้ยได้ แต่ความเสี่ยงจากต้นทุนนำเข้าที่อาจเพิ่มขึ้นตามค่าเงินที่อ่อนค่า ทำให้ BI ต้องดำเนินนโยบายด้วยความระมัดระวัง

· การฟื้นตัวของสินเชื่อยังช้าต่ำกว่าเป้าหมายของ BI ที่ 8-11% ในปีนี้ โดยสินเชื่อรวมใน ต.ค. ขยายตัวช้าลงต่อเนื่องเหลือ 6.96%YoY จากที่ขยายตัว 8.97%YoY ในเดือน ม.ค. ขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดไมโคร ขนาดกลางและขนาดเล็ก (Micro, Small and Medium Enterprises: MSMEs) ซึ่งมีสัดส่วน 18% ของสินเชื่อทั้งระบบหดตัวเล็กที่ -0.1%YoY สะท้อนว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังต้องการแรงสนับสนุนเพิ่มเติม (รูปที่ 2)

รูปที่ 2: สินเชื่อในระบบชะลอตัวโดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจ MSMEs
 

 
· เศรษฐกิจอินโดนีเซียยังเผชิญแรงกดดันจากภัยพิบัติขนาดใหญ่ เหตุอุทกภัยและดินโคลนถล่มที่เกาะสุมาตราตอนเหนือ 3 พื้นที่ ประกอบด้วยอาเจะห์ สุมาตราเหนือ และสุมาตราตะวันตกซึ่งคิดเป็น 7.78% ของ GDP ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตร ยางพารา ปาล์มน้ำมัน พริก และห่วงโซ่อุปทานอาหารของประเทศ รัฐบาลประเมินงบประมาณเพื่อการฟื้นฟูไว้ที่ราว 3.2 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 0.2% ของ GDP ปัจจัยดังกล่าวยิ่งตอกย้ำความจำเป็นที่ BI ต้องคงท่าทีผ่อนคลายทางการเงินในลักษณะผ่อนคลายอย่างระมัดระวัง

ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า BI มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยได้อีกอย่างน้อย 2 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 หากค่าเงินรูเปียห์เริ่มมีเสถียรภาพ เงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย และแรงกดดันจากเงินทุนไหลออกทยอยคลี่คลาย

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 ธ.ค. 2568 เวลา : 12:17:49
24-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ (23 ธ.ค.68) ดัชนีอยู่ที่ 1,271.11 จุด บวก 1.43 จุด

2. ประกาศ กปน.: 25 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล ถนนบำรุงเมือง

3. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (23 ธ.ค.68) บวก 2.66 จุด ดัชนี 1,272.34 จุด

4. MTS Gold คาดราคาทองคำปรับฐานลงมา ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,450-4,420 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,500-4,520 เหรียญ

5. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (23 ธ.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.12 บาทต่อดอลลาร์

6. พยากรณ์อากาศวันนี้ (23 ธ.ค.68) "ยอดดอย" หนาวถึงหนาวจัด 2 องศา มีน้ำค้างแข็ง "ยอดภู" 8 องศา / อุตุฯ เตือน 25-28 ธ.ค. ภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

7. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (22 ธ.ค.68) บวก 227.79 จุด รับแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีพุ่ง

8. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (22 ธ.ค.68) พุ่ง 82.10 ดอลลาร์ เหตุ "สหรัฐ-เวเนซุเอลา" ตึงเครียด หนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

9. ทองเปิดตลาดวันนี้ (23 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 900 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 66,750 บาท

10. ตลาดหุ้นไทยเปิด (23 ธ.ค.68) บวก 1.89 จุด ดัชนี 1,271.57 จุด

11. ประกาศ กปน.: 27 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำบางเขน 2

12. ตลาดหุ้นปิด (22 ธ.ค.68) บวก 17.49 จุด ดัชนี 1,269.68 จุด

13. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (22 ธ.ค.68) บวก 12.44 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,264.63 จุด

14. MTS Gold คาดราคาทองคำตลาดโลกกำลังเคลื่อนไหวทดสอบระดับสูงสุดเดิม (All Time High) แนวรับที่ 4,340-4,320 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,400-4,420 เหรียญ

15. ทองเปิดตลาดวันนี้ (22 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 450 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 65,750 บาท

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 24, 2025, 5:03 am