เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล.อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ลุ้นแรงซื้อสิ้นปี - สัปดาห์แรกหุ้นมักขึ้น"


คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/รีบาวด์ คาดปริมาณการซื้อ-ขายยังเบาบาง วันก่อนการซื้อ-ขายน้อยเป็นประวัติการณ์ต่ำสุดในรอบเกือบ 14 ปี อย่างไรก็ตาม แรงซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีและ Window Dressing เป็นความหวัง ขณะที่สถิติ 5 ปีที่ผ่านมาชี้ว่าผลตอบแทน SET ในสัปดาห์แรกของปีให้ผลตอบแทนบวกเฉลี่ย 1.3% รายกลุ่มหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ลงแรง คาดได้รับผลจากทองแดงทำจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ ทางเทคนิค หากพักสั้นเพื่อขึ้นไม่ควรหลุดต่ำกว่า 1260-1257 อีก มีแนวต้านที่ 1270/1275

ประเด็นสำคัญ

• มูลค่าการส่งออกไทยใน พ.ย. 2568 ขยายตัว 7.1%YoY เติบโตต่อเนื่อง 17 เดือน หนุนจากการส่งออกสินค้าอิเล็กฯ ตามกระแสของ AI ทำให้ช่วง 11M68 ขยายตัว 12.6%YoY สนค. ประเมินการส่งออกทั้งปีนี้จะเติบโต 11.6-12.1%YoY แต่ปีหน้าจะอยู่ในช่วง -3.3% ถึง +1.1% 

• กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างหลักการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500MW ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค. 2568 – 8 ม.ค. 2569 โดยกำหนดให้ กฟภ. เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน หากโครงการมีการประกาศใช้ ประเมินกระบวนการจะใช้เวลาราว 4 เดือนก่อนประกาศผล

• วานนี้มีการประชุม คกก. ชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ GBC เป็นครั้งที่สอง และมีความคืบหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ อย่างไรก็ตามยังคงมีเหตุปะทะกันตามแนวชายแดน ติดตามการประชุมระหว่าง รมว. กลาโหมทั้งสองประเทศในวันที่ 27 ธ.ค. ซึ่งจะมีคณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศเข้าร่วมด้วย

• รัฐบาลจีนประกาศโควตาส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป (เบนซิน, ดีเซล, น้ำมันอากาศยาน) รอบแรกของปี 2569 ที่ 19 ล้านตัน ทรงตัว YoY มองเป็น Sentiment เชิงลบระยะสั้นต่อค่าการกลั่น จากความกังวลอุปทานจีนอาจเข้ามาสู่ตลาดเอเชียเพิ่มขึ้น

• ปธน. ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐฯ จะเตรียมเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินในลาตินอเมริกาใต้ โดยมีเป้าหมายเพื่อกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งถือเป็นสัญญาณยืนยันว่าการยกพลขึ้นบกเพื่อกดดันเวเนซุเอลาไม่ใช่แค่คำขู่ หนุนความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในอเมริกามากขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1230-1285 จุด หลังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ และมีวอลุ่มซื้อขายที่เบาบางลง หลังบรรยากาศการลงทุนเริ่มใกล้ช่วงปลายปีก่อนเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ทำให้นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขาย โดยเฉพาะต่างชาติ ทั้งนี้มองตลาดจะติดตามปัจจัยในประเทศเป็นหลัก อาทิ รายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและนโยบายหลักแต่ละพรรค ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและผลประกอบการของ บจ. ไทย, ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกบางส่วนที่อาจช่วยพยุงดัชนีไว้ได้ เช่น แรงซื้อจากกองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง ThaiESG ที่อาจเข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องในระยะสั้น และการทำ Window Dressing ที่นักลงทุนสถาบันบางส่วนอาจใช้ปรับพอร์ตให้ดูดีก่อนสิ้นปี ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบก่อนเข้าช่วงสิ้นปี คาดตลาดติดตามปัจจัยในประเทศ-การเมือง กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS BEM BGRIM GULF PTT

2. หุ้นปันผลคุณภาพดีเพื่อสร้างกระแสเงินสดและลดความผันผวนให้แก่พอร์ตลงทุน แบ่งเป็น 1) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะยาว (กำไรแต่ละปีมั่นคง, ผันผวนต่ำ, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง, มี SETESG Rating A-AAA และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield สูงเกินปีละ 5%) แนะนำ AP DIF KTB PTT TISCO และ 2) หุ้นปันผลสำหรับลงทุนระยะสั้น 6 เดือน (กำไรปี 2568 มั่นคง, ผันผวนต่ำ, คาดมีเงินปันผลจากกำไรปี 2568 ที่เหลือจ่ายหลังหักเงินปันผลที่ประกาศจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5%) แนะนำ BAM KBANK SAT THANI TLI 

3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง โดยเราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าอีก 2 ครั้ง อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT) กลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนระยะสั้นในหุ้นกลุ่มรับเหมาและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพราะเชื่อมโยงกับนโยบายและโครงการของรัฐ 2) หุ้น SET50 ที่คาดได้อานิสงส์จากทำปิด Window Dressing แนะนำ BDMS BH MINT CPF LH ซึ่งราคาหุ้นปรับลง YTD และพบสถิติย้อนหลัง 5 ปีราคาหุ้นจะปรับขึ้นเฉลี่ย 2.2% หากซื้อก่อน 5 วันทำการสุดท้ายก่อนสิ้นปี และ 3) หุ้นที่อยู่ใน SETESG และ SET100 ที่คาดได้อานิสงส์จากมีแรงซื้อโค้งสุดท้ายกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG โดยเลือกหุ้นที่ล่าสุด ตลท. ประกาศผล SET ESG Rating ดีขึ้นตั้งแต่ A ขึ้นไปและเราแนะนำ Outperform อีกทั้งราคาหุ้นปรับลง YTD เลือก BDMS CHG ERW GLOBAL HMPRO PRM

Daily Top Picks

GPSC: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากต้นทุนก๊าซฯ ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน หนุน SPP Margin และคาดกำไร 4Q68 เพิ่มทั้ง YoY และ QoQ จากต้นทุนก๊าซที่ลดลง 10%YoY และ 5%QoQ และยังมี Upside จากแผน Asset Monetization ของกลุ่ม PTT ที่อาจซื้อ SPP เพิ่ม 300–350MW คาดหนุนกำไรเพิ่ม 1 พันล้าน เป้าหมายระยะสั้น 37 บาท

BDMS: มีปัจจัยหนุนระยะสั้นจากโอกาสได้ประโยชน์ธีม Window Dressing หลังราคาลดลง YTD ขณะที่ ESG Rating สูงขึ้นเป็น AAA และกำไรไม่ผันผวนตามปัจจัยภายนอก โดยปี 2568 คาดกำไรปกติเติบโต 3%YoY และเติบโตต่อ 8%YoY ในปี 2569 และอัตราผลตอบแทนปันผลน่าสนใจช่วยลดความเสี่ยงขาลง เป้าหมายระยะสั้น 20.10 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 ธ.ค. 2568 เวลา : 11:26:22
26-12-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ประกาศ กปน.: 27 ธ.ค. 68 น้ำไหลอ่อนไม่ไหล สถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี

2. ตลาดหุ้นปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 5.52 จุด ดัชนี 1,259.25 จุด

3. ตลาดหุ้นไทยปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 5.28 จุดดัชนี 1,259.49 จุด

4. MTS Gold คาดราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ ประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,480-4,450 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,540-4,560เหรียญ

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (26 ธ.ค. 68) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 66,900 บาท

6. พยากรณ์อากาศวันนี้ (26 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา/ภาคใต้ ฝนตกหนัก 40-60% คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กงดออกจากฝั่ง จนถึง 28 ธ.ค.

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (26 ธ.ค.68) ทรงตัว ที่ระดับ 31.07 บาทต่อดอลลาร์

8. ตลาดหุ้นไทยเปิด (26 ธ.ค.68) ลบ 0.06 จุด ดัชนี 1,264.71 จุด

9. ตลาดหุ้นปิด (25 ธ.ค.68) ลบ 10.56 จุด ดัชนี 1,264.77 จุด

10. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (25 ธ.ค.68) ลบ 8.74 จุด ดัชนี 1,266.59 จุด

11. MTS Gold คาดราคาทองคำประเมินกรอบระยะสั้น แนวรับที่ 4,450-4,430 เหรียญ และแนวต้านที่ 4,500-4,525 เหรียญ

12. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (24 ธ.ค.68) ทำนิวไฮ บวก 288.75 จุด ขานรับ "ซานต้าแรลลี่"

13. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (24 ธ.ค.68) ลบ 2.90 ดอลลาร์ นักลงทุนขายทำกำไรหลังราคาพุ่งทำนิวไฮ

14. พยากรณ์อากาศวันนี้ (25 ธ.ค.68) ประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา /ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (25 ธ.ค.68) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ที่ระดับ 31.10 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 26, 2025, 11:08 pm