|
|
|
|
|
|

|
นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า จากข้อมูลของตำรวจสอบสวนกลางพบว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2568 มีผู้เสียหายโดยเฉพาะผู้รับบำนาญที่ถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของตนเองไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารของมิจฉาชีพ ทำให้สูญเงินไปแล้วหลายราย โดยมิจฉาชีพใช้วิธีการหลอกผู้เสียหายว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต้นสังกัดของผู้เสียหาย ด้วยการอ้างข้อมูลต่าง ๆ เช่น หลอกว่ามีเงินฌาปนกิจหรือเงินสิทธิประโยชน์ของผู้เกษียณอายุราชการค้างอยู่ และให้อัปเดตข้อมูลส่วนตัวเนื่องจากต้องใช้เป็นข้อมูลในการรับเงิน โดยมิจฉาชีพจะให้แอดไลน์และเข้าแอปพลิเคชันเพื่อควบคุมโทรศัพท์ของผู้เสียหายแล้วให้เปลี่ยนภาษา หากมีการให้ดำเนินการเช่นนี้ ไม่ควรดำเนินการต่อ ให้รีบปิดเครื่องเพื่อตัดสัญญาณโทรศัพท์ทันที ดังนั้น หากได้รับการติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือส่วนตัวและให้ดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ได้รับเงินสิทธิประโยชน์หรือเงินจากทางราชการ ให้สงสัยก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ ไม่ควรสนทนาต่อและรีบวางสายทันที เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ที่สำคัญให้พึงระวังว่า ไม่มีหน่วยงานใดที่จะโทรหาเพื่อแจ้งข้อมูลสิทธิสวัสดิการใด ๆ
“ปัจจุบันธนาคารต่าง ๆ มีบริการที่ให้ลูกค้าสามารถ “ล็อก” บัญชีเงินฝากของตนเอง เพื่อป้องกันการโอนเงินออกผ่านช่องทางดิจิทัล (แอปพลิเคชันหรืออินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง) โดยมิจฉาชีพทำให้เงินในบัญชีไม่สามารถถูกขโมยไปได้ง่าย แม้จะถูกหลอกให้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลไปแล้วก็ตาม และจะทำธุรกรรมขาออกได้เฉพาะที่สาขาหรือตู้ ATM เท่านั้น (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขธนาคาร) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด สามารถติดต่อที่ธนาคารเพื่อใช้บริการดังกล่าวได้ ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางขอย้ำว่า ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ติดต่อผู้รับบำนาญหรือทายาท เพื่อให้ดำเนินการใด ๆ ทั้งสิ้น และขอให้ติดตามข่าวสารจากกรมบัญชีกลางอย่างใกล้ชิด จากช่องทางของกรมบัญชีกลาง ได้แก่ เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th และสื่อโซเชียลของกรมบัญชีกลางที่มีเครื่องหมายถูก (Verified) เท่านั้น หากมีข้อสงสัยหรือได้รับการติดต่อที่ไม่มั่นใจว่ามาจากกรมบัญชีกลางจริงหรือไม่ สามารถสอบถามโดยตรงได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ” อธิบดีกรมบัญชีกลางกล่าว
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
27 ธ.ค. 2568 เวลา : 18:14:54
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
 |
|
อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 27, 2025, 8:54 pm
|
|
ข่าวเด่น