เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "แกว่งในกรอบ ลุ้นทดสอบ 1200 จุด"


คาด SET แกว่งในกรอบ นักลงทุนยังรอความชัดเจนมาตรการภาษีตอบโต้ของ ปธน. ทรัมป์ ที่ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นน่าจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่หากมูลค่าซิ้อขายยังคงเบาบางอยู่อาจทำให้ดัชนีปรับขึ้นจำกัด ประเมินแนวรับที่ 1180 - 1175 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1200 - 1205 จุด

ประเด็นสำคัญ

• กบน. ประกาศลดราคาเบนซินและดีเซลรวม 1 บาท/ลิตร โดยลดราคาขายผ่านการลดการเก็บเงินสมทบ 50 สต./ลิตร ในวันที่ 28 มี.ค. และ 4 เม.ย. 2568 เป็นของขวัญก่อนเข้าสู่ช่วงสงกรานต์ ขณะที่กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องดีขึ้น เก็บเงินได้เฉลี่ยเดือนละ 8 พันลบ./เดือน

• สนพ. คาดความต้องการพลังงานไทยปี 2568 จะเติบโตราว 2.9% จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวแห่เดินทางเข้าประเทศ พร้อมคาดกรอบราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ในกรอบ 75-85 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล 

• สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติประกาศปรับขึ้นราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มขึ้นทุกภูมิภาค 2-4 บาท/ก.ก. สู่ 86-88 บาท/ก.ก. เป็นการปรับตามกลไกตลาด เนื่องจากความต้องการอยู่ในระดับสูง ขณะที่ผลผลิตลดลง

• สนข. ได้จัดทำร่างพ.ร.บ. ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ซึ่งดำเนินการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นประกอบการจัดทำและเสนอร่างกฎหมายระหว่างวันที่ 21 มี.ค. – 20 เม.ย. 2568

• ปธน. ทรัมป์ โพสต์ข้อความระบุว่าประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซฯ จากเวเนซุเอลา จะถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากร 25% จากสินค้าทุกรายการที่มีการนำเข้าสู่สหรัฐฯ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.

• BoJ กล่าวต่อรัฐสภาและส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อ หากเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มปรับใกล้เป้าหมาย 2% แม้ว่าอาจส่งผลกระทบต่อพอร์ทการลงทุนของ BoJ

• Ant Group ในเครือ Alibaba เผยว่าใช้ได้ชิปจาก Huawei พัฒนา AI และช่วยลดต้นทุนได้สูงถึง 20% และอ้างว่าให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับชิป H800 ของ Nvidia

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อหลังรับรู้ปัจจัยลบไปมากแล้วจนทำให้ดัชนีปรับตัวลง 15%YTD แย่สุดในตลาดหุ้นทั่วโลก ทั้งนี้มองว่าตัวเลขเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนจะส่งผลดีต่อบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นไทย ท่าทีของธนาคารกลางทั่วโลกออกไปในทิศทาง Dovish มากขึ้น ซึ่งคาดจะช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนี PMI ภาคการผลิตของงสหรัฐฯ ชะลอตัวลง ขณะที่ในประเทศมีปัจจัยต้องติดตามเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในวันที่ 24-26 มี.ค. ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

มอง SET มีแนวโน้มฟื้นตัวหลังรับรู้ปัจจัยลบไปมากแล้ว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนและการส่งสัญญาณยืดหยุ่นต่อแผนเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะส่งผลดีต่อบรรยากาศลงทุน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

1. หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และ 3) มีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้น SET50 ที่น่าสนใจ ได้แก่ ADVANC BBL BDMS CPALL PTT ส่วนหุ้น SET100 ที่น่าสนใจ ได้แก่ AP BCH BTG

2. หุ้นปันผลคุณภาพดี โดย 1) มีสถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปีขึ้นไป และมี SET ESG Ratings ตั้งแต่ระดับ A-AAA 2) คาดบริษัทจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ยังให้ Div. Yield สูงเกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ปี 2568 ผลประกอบการยังแข็งแกร่งและราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside เกิน 15%  แนะนำ AP KTB BBL SPALI KBANK

3. หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน โดยคัดเลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายของกองทุน โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยสูง (Interest Coverage ratio > 1) 3) Valuation ไม่แพง โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) มีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 2% และ 5) มี SET ESG Ratings ระดับ A-AAA แนะนำ MTC MINT AMATA BJC CPF

DAILY TOP PICKS

‎CPALL: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากคาดเป็นหนึ่งในเป้าหมายกองทุน ThaiESGX เนื่องจากมี SET ESG Ratings ระดับ AAA  กำไร 1Q68 คาดเติบโต YoY หนุนจาก SSS และมาร์จิ้นที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนกำไรปี 2568 จะเติบโตดีเป็นอันดับสองในกลุ่มพาณิชย์ที่ 16% โดย 11% จะมาจากยอดขายและมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากธุรกิจ CVS และ 5% มาจาก CPAXT  

PTTEP: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นหลังสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับอิหร่านรอบใหม่และมีสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ปี 2568 แม้คาดกำไรจะอ่อนแอลง YoY แต่มีงบดุลที่แข็งแกร่ง (มีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อทุนน้อยกว่า 0.3 เท่า) วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรราคาไม่เกิน 118 บาท
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 25 มี.ค. 2568 เวลา : 12:06:18
01-11-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิด (31 ต.ค.68) ลบ 5.15 จุด ดัชนี 1,309.50 จุด

2. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (31 ต.ค.68) บวก 0.17 จุด ดัชนี 1,314.82 จุด

3. MTS Gold คาดว่าตลาดจะ หยุดการปรับตัวลง และจะเข้าสู่ช่วง Sideway สร้างฐานราคา กรอบแนวรับ 3,980 เหรียญ แนวต้านที่ 4,080 เหรียญ

4. ตลาดหุ้นไทยเปิด (31 ต.ค.68) ลบ 8.51 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,306.14 จุด

5. ทองเปิดตลาดวันนี้ (31 ต.ค. 68) ปรับขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ ขายออก 62,200 บาท

6. ดัชนีดาวโจนส์ปิดเมื่อคืน (30 ต.ค.68) ร่วง 109.88 จุด หุ้น Meta-Microsoft ฉุดตลาด-กังวลทิศทางดอกเบี้ยเฟด

7. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (31 ต.ค.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 32.34 บาทต่อดอลลาร์

8. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (30 ต.ค.68) บวก 15.20 ดอลลาร์ รับเฟดลดดอกเบี้ย-ความไม่แน่นอนข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐ

9. พยากรณ์อากาศวันนี้ (31 ต.ค.68) "กรุงเทพปริมณฑล-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ ฝั่ง ตต." ฝนตกหนัก 70% ภาคเหนือ-ภาคอีสาน ภาคใต้ ฝั่ง ตอ. 60%

10. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.45บาท/ดอลลาร์

11. ตลาดหุ้นปิด (30 ต.ค.68) ลบ 0.99 จุด ดัชนี 1,314.65 จุด

12. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (30 ต.ค.68) ลบ 5.87 จุด ดัชนี 1,309.77 จุด

13. MTS Gold ราคาทองคำจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 59,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 61,000 บาท/บาททองคำ

14. ทองนิวยอร์กปิดเมื่อคืน (29 ต.ค.68) บวก 17.6 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟดลดดอกเบี้ย 0.25%

15. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (30 ต.ค.68) อ่อนค่าลง ที่ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 1, 2025, 11:36 pm