หุ้นทอง
ITC เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2568 โตต่อเนื่อง รับดีมานด์พุ่ง ทำรายได้รวม 4,249 ล้านบาท กำไรสุทธิ 677 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ "สร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรม"


 
บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2568 ด้วยรายได้จากการขายรวม 4,249 ล้านบาท เติบโต 5.5 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการขายที่เติบโต 13.2 เปอร์เซ็นต์  ขับเคลื่อนโดยคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้าผู้นำเข้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก อย่างไรก็ดี การเติบโตของรายได้ของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกของทุกปีจะเป็นช่วงที่ขยายตัวเพียงเล็กน้อย ส่วนในรอบนี้ได้รับผลกระทบบางส่วนจากการขายสินค้ากลุ่มพรีเมียมที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อันเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24.1 เปอร์เซ็นต์ จากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการปรับสัดส่วนการผลิตในกลุ่มสินค้าพรีเมียม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 677 ล้านบาท
 
 
นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีนี้  ITC มีเป้าหมายในการเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในตลาดหลักอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารแมวชนิดเปียก  พร้อมทั้งต่อยอดผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและขนมสัตว์เลี้ยงให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายสำคัญด้านการเพิ่มปริมาณการจำหน่าย พร้อมมุ่งขยายฐานลูกค้ากลุ่ม private label และผู้นำเข้าสินค้าในทุกภูมิภาค โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อจากผู้ค้าปลีกรายใหม่ในเยอรมนี อิตาลี และตุรกี คาดว่าจะเริ่มส่งมอบสินค้าได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ถือเป็นการรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังมองหาสินค้าที่ราคาคุ้มค่า แต่ยังคงคุณภาพสูง ถือเป็นโอกาสสำคัญและเปิดกว้างของ ITC ในการสร้างความแตกต่างและขยายส่วนแบ่งตลาดด้วยเช่นกัน”

“กลุ่มสินค้าพรีเมียมยังคงเป็นแนวทางหลักในการดำเนินธุรกิจที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการสร้างความแตกต่างผ่านคุณภาพและนวัตกรรม โดยสัดส่วนยอดขายสินค้าพรีเมียมยังคงอยู่ในระดับ 47–50 เปอร์เซ็นต์  สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทฯ ในการบริหารจัดการและรักษาสมดุลพอร์ตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ   รวมถึงสามารถรักษาความแข็งแกร่งในตลาดสินค้าพรีเมียม ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างการเติบโตในระยะยาวของ ITC”
 
สำหรับสัดส่วนรายได้ของ ITC แบ่งตามภูมิภาคในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ อเมริกามียอดขาย คิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้รวม รองลงมาคือเอเชียและโอเชียเนีย 28 เปอร์เซ็นต์ และยุโรป 12 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รายได้ตามกลุ่มผลิตภัณฑ์แบ่งเป็นอาหารแมว 71 เปอร์เซ็นต์ อาหารสุนัข 16 เปอร์เซ็นต์ และขนมสัตว์เลี้ยง 13 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพสูง โดยสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นราว 182 ล้านบาท  รวมถึง การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ระดับโลก โดยคาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มเติมราว 13.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
 
นอกจากนี้ ITC ยังเริ่มเดินหน้าโครงการใหม่ๆ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 68 ในการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงและอาหารแมว ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ตลอดทั้งปีนี้ แสดงถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่เห็นศักยภาพในการพัฒนานวัตกรรมและการผลิตของ ITC ได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง บริษัทฯ ยังเน้นการพัฒนาและขยายพอร์ตสินค้าที่สำคัญ และต่อยอดผลิตภัณฑ์ประเภท chunk และ pâté รวมถึงให้ความสำคัญกับการเติบโตของผลิตภัณฑ์กลุ่ม functional pet food ที่จะช่วยตอบโจทย์เทรนด์ด้านโภชนาการและการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงเชิงป้องกันในระยะยาวอีกด้วย
 
สำหรับการลงทุนในปี 2568 บริษัทฯ เดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิต และรองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยมีโครงการสำคัญ ได้แก่ คลังสินค้าอัตโนมัติ ASRS ที่จังหวัดสงขลา และเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติสำหรับสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงในรูปแบบถุงเพาซ์ที่โรงงานสมุทรสาคร ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต อีกทั้ง ยังเน้นการพัฒนาด้านความยั่งยืนควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวในฐานะหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก
 
นอกจากแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งแล้ว ITC ยังคงติดตามและประเมินความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในหลายภูมิภาค รวมถึงความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในต่างประเทศ เพื่อหาแนวทางการลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมปรับกลยุทธ์การดำเนินงานให้มีความยืดหยุ่นและสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที
 
“แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกและปัจจัยภายนอกที่ไม่แน่นอน แต่เรายังเชื่อมั่นในศักยภาพการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมที่โดดเด่นและแตกต่างของเรา รวมถึงการมีพันธมิตรอยู่ทั่วโลกจะช่วยยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของ ITC ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาด ขยายฐานลูกค้าใหม่ ตลอดจนสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และพันธมิตรทางธุรกิจของเราในระยะยาว” นายพิชิตชัย กล่าวทิ้งท้าย
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 เม.ย. 2568 เวลา : 19:38:00
15-09-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดเช้าบวก 3.98 จุด มูลค่าซื้อขายราว 20,045 ล้านบาท

2. ทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 12.80 ดอลลาร์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

3. ตลาดหุ้นเปิด 15 กันยา 68 ลบ 1.52 จุด อยู่ที่ 1,292.10 จุด

4. ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ เพิ่มขึ้น 25 จุด หรือ 0.05% จับตาเฟดลดดอกเบี้ยพุธนี้

5. ราคาทองวันนี้ 15 ก.ย. 68 เปิดเพิ่มขึ้น 50 บาท ทองรูปพรรณขายออก 55,500 บาท

6. พยากรณ์อากาศวันนี้ 15 กันยายน 2568 ทั่วไทยมีฝนฟ้าคะนอง "กทม." ตก 70%

7. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.65-31.90 บาท/ดอลลาร์

8. ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 31.75 บาทต่อดอลลาร์ "อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง" จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 31.71 บาทต่อดอลลาร์

9. ตลาดหุ้นปิด (12 ก.ย.68) บวก 5.59 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,293.62 จุด

10. หุ้นปิดภาคเช้า (12 ก.ย.) บวก 4.10 จุด ปิดที่ 1,292.13

11. MTS Gold คาดราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 3,620 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 3,670 เหรียญ

12. ตลาดหุ้นไทยเปิดวันนี้ 12 ก.ย. 68 เพิ่มขึ้น 10.53 จุด ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,298.56 จุด

13. ทองคำนิวยอร์กปิดลบ 8.4 ดอลลาร์ จากแรงขายทำกำไร

14. ดาวโจนส์ ปิดพุ่ง 617 จุด ทุบสถิติสูงสุด หนุน เฟด จ่อหั่นดอกเบี้ย

15. ราคาทองคำวันที่ 12 ก.ย.2568 ปรับเพิ่มขึ้น 50 บาท โดยทองรูปพรรณขายออกที่บาทละ 55,450 บาท

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ September 15, 2025, 2:10 pm