เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บล อินโนเวสท์วิเคราะห์ "ยืน 1300 ก่อนรู้ผลประชุมเฟด"


คาดตลาดแกว่งตัวขึ้น หลังทดสอบ/ปิดใกล้ 1300 มีโอกาสยืนได้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อยพร้อมนักลงทุนสถาบันที่ทยอยซื้อสุทธิต่อเนื่อง ประธานาธิบดีทรัมป์ กดดันเฟดให้ลดดอกเบี้ยต่อ ตลาดติดตามว่าวงจรการลดดอกเบี้ยรอบใหม่จะลงไปที่เท่าใดในปี 2569 ตาม DotPlot ใหม่ซึ่งรายงานครั้งที่ผ่านมา FFR ปี 2569 อยู่ที่ 3.6% ทางเทคนิคการยืนเหนือ 1300 ได้มีแนวต้านถัดไปที่ 1310/1315 ส่วนแนวรับที่ 1290/1280 พักสั้นเพื่อขึ้นไม่ควรต่ำกว่า 

ประเด็นสำคัญ

• ศก. จีนใน ส.ค. 2568 ชะลอตัวมากกว่าคาด จากผลผลิตภาคอุตฯ และยอดค้าปลีกขยายตัว 5.2%YoY และ 3.4%YoY ตามลำดับ ชะลอจากเดือนก่อนและต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์คงทนช่วง 8M68 ขยายตัวเพียง +0.5%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดและต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563

• ธปท. และคลังกำลังหารือถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีจากการซื้อขายทองคำในประเทศ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และชำระเป็นเงินบาท เพื่อสกัดปัจจัยหนุนบาทแข็งค่าที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 4 ปี หลังพบมูลค่าส่งออกทองคำช่วง 7M68 พุ่ง 69%YoY แตะ 2.54 แสนลบ. โดยเฉพาะการส่งออกสู่กัมพูชาที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ

• กรมธุรกิจพลังงานเผยสถานการณ์การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงช่วง 7M68 เพิ่มขึ้น 0.1%YoY สู่ 156.9 ล้านลิตร/วัน เป็นการเพิ่มขึ้นจากการบริโภคเบนซินและน้ำมันอากาศยาน (Jet A1) 1.5%YoY และ 9.8%YoY ตามลำดับ แต่การบริโภคดีเซลหดตัว 2.0%YoY ตามภาค ศก. ที่ชะลอตัว โดยเฉพาะการชะลอตัวของกลุ่มบริการท่องเที่ยว

• คณะทำงานปฏิรูปตลาดหุ้นไทย ซึ่งประกอบด้วย สศค., ก.ล.ต., ตลท. และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ร่วมกันเปิดเผย “ร่างมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทย” ผ่าน 4 แนวทาง เพิ่มคุณภาพผู้ลงทุน, เพิ่มสินค้าให้ดึงดูด, สร้างความเชื่อมั่น และสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มขีดความสามารถ

• กยท. ประสบความสำเร็จในการเจรจาการค้ากับรัฐบาลจีนและได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้ายางพาราไทยที่ขนส่งผ่านช่องทางแม่น้ำโขงจาก 20% เหลือ 0% ทำให้ไทยมีศักยภาพการแข่งขันเทียบเท่าประเทศในอาเซียนที่ได้รับการยกเว้นก่อนหน้านี้ มองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มยาง อย่าง NER STA TEGH

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสไซด์เวย์ในกรอบ โดยมีแนวต้านบริเวณ 1300-1320 จุด ทั้งนี้ประเมินตลาดจะให้น้ำหนักหลักกับปัจจัยต่างประเทศอย่างการประชุมนโยบายการเงิน FOMC (17 ก.ย.) ซึ่งคาดเฟดจะมีมติลดดอกเบี้ยนโยบาย 25bps รวมทั้งจับตา Dot Plot และถ้อยแถลงของประธานเฟดที่จะชี้นำการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่วนการประชุมนโยบายการเงิน BoE และ BoJ ตลาดคาดยังมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังอยู่ระหว่างรอติดตามข่าวความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลและแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่เพิ่มจากโครงการคนละครึ่ง ซึ่งจะมีผลต่อการเรียกความเชื่อมั่นการลงทุนให้ฟื้นตัวและการทยอยไหลเข้าของ Fund Flow ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ ระหว่างรอผลการประชุม FOMC ซึ่งคาดจะมีการลดดอกเบี้ย รวมทั้งจับตา Dot Plot และถ้อยแถลงของประธานเฟดที่จะชี้นำการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่วนในประเทศติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้

1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC

2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB

3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและ/หรือ ดอลลาร์อ่อนค่า(บาทแข็งค่า) แนะนำ REITs (DIF) อสังหาฯ (AP SIRI) เช่าซื้อ (MTC) และโรงไฟฟ้า (GPSC BCPG GULF) 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากสถานการณ์น้ำท่วมในไทย แนะนำ TASCO BJC HMPRO GLOBAL และ 3) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ/หรือ ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้น ได้แก่ ค้าปลีก (CPALL GLOBAL TNP) เครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) ท่องเที่ยว (CENTEL) นิคม (AMATA WHA) วัสดุก่อสร้าง (SCC) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากเงินบาทแข็งค่าอย่าง อิเล็กทรอนิกส์ (KCE HANA DELTA) และอาหาร (TU CPF GFPT) ซึ่งมีรายได้บางส่วนอยู่ในรูปดอลลาร์

Daily Top Picks

CKP: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากดอกเบี้ยขาลงและการเข้าสู่ฤดูกาลทำกำไรของโรงไฟฟ้าพลังน้ำช่วง 3Q68–4Q68 คาด EPS เติบโต 33% ในปี 2568 และ 14% ในปี 2569 ขณะเดียวกัน Valuation ยังถูก (2569F PER 12x, P/BV 0.8x, Yield 3%) การลดดอกเบี้ยทุก 0.5% เพิ่มกำไร 8% ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 3.00 บาท

TASCO: มีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งคาดจะหนุนความต้องการสินค้าซ่อมแซมพื้นผิวถนนหลังน้ำลด และการเร่งเบิกจ่ายงบปี 2569 จากรัฐบาลใหม่ ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 2568 จะพลิกเติบโต 5.6%YoY ขณะที่หุ้นซื้อขายที่ PER 2568F ไม่แพงที่ระดับราว 11 เท่า มีราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 15.90 บาท  

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 16 ก.ย. 2568 เวลา : 10:32:51
16-09-2025
เบรกกิ้งนิวส์
1. ตลาดหุ้นปิดภาคเช้า (16 ก.ย.68) บวก 6.60 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,306.38 จุด

2. MTS Gold คาดราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ 3,660 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ 3,700 เหรียญ

3. ตลาดหุ้นวันนี้ 16 ก.ย. 68 บวกขึ้น 6.37 จุด หรือ 0.49% อยู่ที่ 1,306.15 จุด

4. ทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $32.6 ทำนิวไฮ บอนด์ยีลด์ร่วง-ดอลล์อ่อนหนุนตลาด

5. ดาวโจนส์ ปิดบวก 49.23 จุด หลังเจรจาการค้าราบรื่น จับตาประชุมเฟด

6. ราคาทองวันนี้ ปรับเพิ่ม 450 บาท ราคาทองรูปพรรณ บาทละ 56,150 บาท

7. พยากรณ์อากาศวันนี้ ฝนตกหนักบางแห่งกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่

8. ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.70-31.95 บาท/ดอลลาร์

9. ค่าเงินบาทเปิดวันนี้ (16 ก.ย.68) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ที่ระดับ 31.82 บาทต่อดอลลาร์

10. ตลาดหุ้นปิด (15 ก.ย.68) บวก 6.16 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,299.78 จุด

11. MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 3,620 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 3,660 เหรียญ

12. ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้า (15 ก.ย.2568) บวก 3.98 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,297.60 จุด

13. ทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 12.80 ดอลลาร์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า

14. ตลาดหุ้นเปิด 15 กันยา 68 ลบ 1.52 จุด อยู่ที่ 1,292.10 จุด

15. ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ เพิ่มขึ้น 25 จุด หรือ 0.05% จับตาเฟดลดดอกเบี้ยพุธนี้

อ่านข่าว เบรกกิ้งนิวส์ ทั้งหมด
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ September 16, 2025, 4:20 pm